นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้าวันที่ 26 กันยายน 2568 ภายหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นภารกิจผู้นำประเทศ โดยได้กล่าวขอพรให้ “ทุกอย่างราบรื่น” พร้อมปฏิเสธการพกเครื่องรางของขลัง โดยย้ำว่า “ทุกอย่างอยู่ที่ใจ” ขณะเดียวกันยังมีภารกิจสำคัญในงานความร่วมมือไทย-จีน ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในวันเดียวกัน
ไหว้ศาลพระภูมิและศาลตายายประจำทำเนียบ
เวลา 08.41 น. นายอนุทิน เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นธรรมเนียมที่ผู้นำรัฐบาลไทยหลายยุคถือปฏิบัติ โดยเริ่มต้นที่ศาลพระภูมิประจำทำเนียบรัฐบาล และศาลตายายซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ทำเนียบ การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงถึงความเชื่อและการขอขวัญกำลังใจในการเริ่มต้นบทบาทในตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง
ภายหลังพิธีสักการะ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการขอพร นายกรัฐมนตรีเปิดเผยสั้น ๆ ว่า “ขอให้ทุกอย่างราบรื่น” สะท้อนถึงความคาดหวังให้การทำงานในรัฐบาลใหม่เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและราบรื่นไร้อุปสรรค
ปัดข่าวพกเครื่องราง ชี้ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
เมื่อถูกถามว่ามีการพกเครื่องรางของขลังหรือสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจมาด้วยหรือไม่ นายอนุทินตอบอย่างชัดเจนว่า “ทุกอย่างอยู่ที่ใจ” แสดงท่าทีไม่ยึดติดกับวัตถุมงคล แต่ให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นและจิตใจของผู้นำเองเป็นหลัก ข้อความสั้น ๆ นี้สะท้อนถึงแนวคิดการทำงานที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริง
ท่าทีดังกล่าวยังสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้นำที่พยายามยืนบนเหตุผลและความเชื่อมั่นภายใน มากกว่าการฝากความหวังไว้กับสิ่งเหนือธรรมชาติ อันเป็นภาพลักษณ์ที่น่าจับตาในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่
เตรียมขึ้นเวทีงาน Thailand-China Cooperation Expo 2025
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทินมีกำหนดการเดินทางไปยังอาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อปาฐกถาพิเศษในงาน Thailand – China Cooperation Expo 2025 งานสำคัญที่สะท้อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างไทยกับจีน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรีในช่วงเริ่มต้นการดำรงตำแหน่ง
การเข้าร่วมงานดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางการต่างประเทศของรัฐบาลใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับจีน ทั้งด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
