วันที่ 29 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่เริ่มตึงเครียด โดยยืนยันได้หารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเสริมกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองสนับสนุนแนวหน้า พร้อมให้อำนาจกองทัพตัดสินใจปกป้องอธิปไตย หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ด้านการช่วยเหลือประชาชนเตรียมศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงรองรับอย่างเป็นระบบ

นายกฯ ย้ำกองทัพมีอำนาจเต็มปกป้องอธิปไตย

นายอนุทิน เปิดเผยว่า สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลได้มอบอำนาจให้กองทัพเป็นผู้ตัดสินใจในการปฏิบัติการทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอธิปไตย เพื่อให้สามารถตอบโต้ได้อย่างทันท่วงทีหากสถานการณ์บานปลาย

เขาระบุว่า ได้หารือกับ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อวางแนวทางการทำงานร่วมกัน โดยมีทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองเข้ามาบูรณาการการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนว่ารัฐบาลพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

เสริมกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองประจำแนวหน้า

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การดูแลพื้นที่ชายแดนไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพเพียงฝ่ายเดียว แต่ยังมี ตำรวจตระเวนชายแดน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาเสริมกำลัง เพื่อสนับสนุนภารกิจของทหารในพื้นที่ โดยเฉพาะการดูแลความสงบเรียบร้อยในชุมชนและการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน

ทั้งนี้ เมื่อคืนวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา นายอนุทิน ได้หารือกับ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเตรียมจัดส่งกำลังตำรวจตระเวนชายแดนเข้าสนับสนุนการทำงานแนวหน้า พร้อมทั้งวางแผนให้หน่วยงานด้านความมั่นคงร่วมประชุมกัน เพื่อแบ่งบทบาทหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน

เตรียมศูนย์อพยพและมาตรการดูแลคุณภาพชีวิต

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า หากสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดจนต้องอพยพประชาชน รัฐบาลได้วางแผนจัดตั้ง ศูนย์อพยพ และ ศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นให้มีมาตรฐานทั้งด้านที่พักอาศัย เครื่องนุ่งห่ม อาหาร รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารและลดความตึงเครียด

เขายังได้สั่งการให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดส่งรถโมบายอินเทอร์เน็ตเข้าสู่พื้นที่ศูนย์พักพิง เพื่อให้ผู้ที่ถูกอพยพมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเกิดความเชื่อมั่นต่อการดูแลของภาครัฐ

ปัดข่าวทหารขาดแคลนเสบียง ย้ำพร้อมสนับสนุนทุกด้าน

ในส่วนของกระแสข่าวที่ระบุว่าทหารตามแนวชายแดนขาดแคลนข้าวสาร ต้องพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋อง นายอนุทิน ยืนยันว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ แต่หากมีกำลังพลขาดสิ่งจำเป็น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้กำลังใจทหารและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้า

โดยานายอนุทินเน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่และประชาชน เพื่อให้การทำงานทุกภาคส่วนเป็นไปอย่างราบรื่นและพร้อมเผชิญกับทุกความท้าทาย