วันที่ 29 กันยายน 2568 การแถลงนโยบายรัฐบาลเกิดความวุ่นวายในสภา หลัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายพาดพิงปัญหาที่ดินเขากระโดงและโยงถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยหลายคนลุกขึ้นประท้วงต่อเนื่อง โดยระบุว่าเป็นการพูดนอกประเด็น ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาล ขณะที่บางฝ่ายมองว่าเป็นการตรวจสอบความเหมาะสมของผู้นำ จนนำไปสู่การปะทะคารมระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านกว่า 20 นาที

พ.ต.อ.ทวีหยิบปมเขากระโดง ส.ส.ภูมิใจไทยลุกประท้วง

ช่วงบ่ายระหว่างการอภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้กล่าวถึงกรณีพิพาทที่ดินเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ โดยอ้างถึงคำพิพากษาหลายคดีที่ระบุว่าเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แต่กรมที่ดินและกระทรวงมหาดไทยยังไม่ดำเนินการเพิกถอนสิทธิ์ ส่งผลให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยไม่พอใจ ลุกขึ้นประท้วงพร้อมกัน

นายสนอง เทพอักษรณรงค์, น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย และ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เป็นกลุ่มแรกที่ชี้ว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องเก่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลใหม่ อีกทั้งรัฐบาลปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ควรถูกหยิบยกขึ้นมาในการประชุมครั้งนี้

อภิปรายเดือด โยงนายกฯบ้านอยู่เขากระโดง

แม้ประธานที่ประชุม นายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา จะพยายามวินิจฉัยให้อภิปรายอยู่ในประเด็น แต่ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่มีบ้านพักอยู่ในพื้นที่พิพาท หากละเลยอาจกระทบหลักนิติรัฐและสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคม ทำให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยลุกขึ้นประท้วงรอบใหม่ และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

บรรยากาศในห้องประชุมตึงเครียดยิ่งขึ้น เมื่อมีการโต้เถียงระหว่าง ส.ส.ภูมิใจไทยกับฝ่ายสนับสนุน พ.ต.อ.ทวี ที่ยืนยันสิทธิในการตรวจสอบผู้นำรัฐบาล

ขยายประเด็นคดีฮั้วสว. จุดไฟความขัดแย้งรอบสอง

นอกจากปมที่ดินเขากระโดงแล้ว พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงคดีการฮั้วเลือกตั้งวุฒิสภา โดยระบุว่ามีหลักฐานยืนยันชัดเจนและโยงไปถึงนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยยกทีมประท้วงอีกครั้ง

สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนเมื่อมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชาติ รวมถึงสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนลุกขึ้นสนับสนุนการอภิปรายของ พ.ต.อ.ทวี ขณะที่ นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถึงขั้นเรียกร้องให้เปลี่ยนประธานการประชุม โดยระบุว่านายมงคลทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ควรให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา มาทำหน้าที่แทน

ความวุ่นวายยืดเยื้อ ก่อนกลับเข้าสู่วาระหลัก

บรรยากาศการประชุมเต็มไปด้วยการตอบโต้ระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน รวมถึงเสียงเหน็บแนมจากสมาชิกวุฒิสภาบางคนที่มองว่า ส.ส.ภูมิใจไทย “ร้อนตัวเกินไป” ความวุ่นวายดังกล่าวกินเวลาเกือบ 20 นาที ก่อนที่นายมงคลจะอนุญาตให้ พ.ต.อ.ทวีอภิปรายต่อ โดยกำชับให้อยู่ในกรอบนโยบายรัฐบาลเพื่อป้องกันการโต้เถียงซ้ำอีก