วันที่ 29 กันยายน 2568 การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุกขึ้นชี้แจงตอบโต้การอภิปรายของ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่า ตนยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาในคดีฮั้วเลือก ส.ว. และไม่เคยมีเบื้องหลังทางการเมืองกับผู้นำกัมพูชา พร้อมเปิดเผยเบื้องลึกกรณีที่พรรคเพื่อไทยขอคืนเก้าอี้ รมว.มหาดไทย (มท.1) ก่อนการยุบสภาและการจัดทำบันทึกความเข้าใจทางการเมือง (MOA)

อนุทินโต้ “จิราพร” สร้างวาทกรรมปมฮั้ว ส.ว.

นายอนุทิน กล่าวว่าการอภิปรายของ น.ส.จิราพร พยายามสร้างวาทกรรมที่บิดเบือน โดยย้ำว่าตน “ยังไม่ใช่ผู้ต้องหา” ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่เพียงได้รับการแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งการส่งเอกสารชี้แจงและตั้งทีมทนายความ

เขาเตือนว่าการกล่าวหาว่าตนและสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ต้องหานั้น “ไม่ถูกต้อง” และสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน พร้อมเรียกร้องให้คู่กรณีถอนคำพูด ซึ่งท้ายที่สุดประธานการประชุมมีคำวินิจฉัยให้น.ส.จิราพรถอนคำว่า “ผู้ต้องหา”

ปมความสัมพันธ์กับกัมพูชา และการถูกขอคืน มท.1

นายกรัฐมนตรีเผยว่า ตนไม่เคยมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชา และการพบกับ สมเด็จฮุน เซน เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกในการเยือนกัมพูชาพร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เขายังเปิดเผยว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยแจ้งความประสงค์ให้คืนเก้าอี้ รมว.มหาดไทย เพื่อแลกกับตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข แต่ตนปฏิเสธ โดยมองว่าเป็นสัญญาณให้พรรคภูมิใจไทยพิจารณาถอนตัวจากรัฐบาล และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือกับพรรคประชาชน

MOA ไม่ผูกพันรัฐบาล แต่ยืนยันเดินหน้ายุบสภา

นายอนุทิน ยืนยันว่า บันทึกความเข้าใจทางการเมือง (MOA) ที่ทำกับพรรคประชาชน ไม่ได้ผูกพันรัฐบาลทั้งชุด แต่สะท้อนเจตนารมณ์ร่วมระหว่างสองพรรคว่าจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 14–15 ตุลาคม และยุบสภาไม่เกินวันที่ 31 มกราคม

เขาระบุด้วยว่า MOA ไม่ใช่เรื่อง “พิสดาร” หรือการตกลงลับ แต่เป็นการดำเนินการอย่างเปิดเผยภายใต้หลักประชาธิปไตย พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวดูด ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย โดยย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยต่างหากที่เคยถูกดึงตัวแต่สุดท้ายสมาชิกกลับใจ

ย้ำไม่ก้าวก่ายคดีเขากระโดง–ฮั้ว ส.ว.

สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่าใช้อำนาจหน้าที่กดดันคดีที่เกี่ยวข้อง เช่น คดีที่ดินเขากระโดง และคดีฮั้ว ส.ว. นายกรัฐมนตรีระบุว่า ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่ได้สั่งการหรือชี้นำใดๆ

เขายังวิจารณ์การทำงานของรัฐมนตรีช่วยจากพรรคเพื่อไทยที่ “ใจร้อน” และสรุปผลผิดจากข้อเท็จจริง พร้อมประกาศชัดว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างเด็ดขาด