วันที่ 1 ตุลาคม เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีที่ได้ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีส่วนชี้นำหรือครอบงำการทำงานของ พรรคเพื่อไทย ภายหลังการให้สัมภาษณ์ทวงคืนกระทรวงมหาดไทย ซึ่งต่อมาพรรคเพื่อไทยสามารถดำเนินการได้สำเร็จ อาจเข้าข่ายขัดต่อมาตรา 28 และมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
ศรีสุวรรณยื่นพยานหลักฐานต่อกกต.
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า ได้นำหลักฐานเพิ่มเติมมามอบให้คณะกรรมการของกกต. ซึ่งประกอบด้วยคลิปภาพและเสียงจากหลายเหตุการณ์ เช่น การให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. กรุงเทพฯ การออกรายการ “3 Editors” ของ Nation TV เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 รวมถึงการร่วมเวทีเสวนา “55 Years Nation Exclusive Talk” ที่สตูดิโอ Nation TV เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568
นอกจากนี้ยังมีคลิปเหตุการณ์การหารือแผนรับมือมาตรการภาษีทรัมป์กับแกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งทั้งหมดถูกยื่นเป็นหลักฐานเพื่อชี้ให้เห็นว่า นายทักษิณอาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคเพื่อไทยโดยทางตรงหรือทางอ้อม
ข้อกังขาตามมาตรา 28–29 พ.ร.ป.พรรคการเมือง
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28 และมาตรา 29 กำหนดห้ามมิให้บุคคลซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคการเมืองเข้ามาครอบงำหรือชี้นำการดำเนินกิจกรรมของพรรค หากพบว่ามีการฝ่าฝืน พรรคการเมืองอาจถูกลงโทษตามที่กฎหมายกำหนด
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า มีนักวิชาการและนักการเมืองหลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็นต่อสาธารณะว่ากรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนข้อกฎหมาย ซึ่งการยื่นคำร้องครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้กกต.ตรวจสอบอย่างรอบด้านและเป็นธรรม เพื่อรักษามาตรฐานความโปร่งใสในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
ขั้นตอนต่อไปของกกต.
หลังการให้ถ้อยคำในวันนี้ กกต.จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจว่าจะมีการไต่สวนเชิงลึกหรือไม่ หากพบมูลความผิด พรรคเพื่อไทยอาจต้องเผชิญกระบวนการทางกฎหมายที่เข้มงวด
ประเด็นดังกล่าวยังเป็นที่จับตาของสังคมการเมืองไทย เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพของพรรคเพื่อไทย และการกำหนดทิศทางทางการเมืองในอนาคต
