เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่กรมชลประทาน ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกโรงโต้กรณี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายพาดพิงเชื่อมโยงตนกับเครือข่ายสแกมเมอร์ โดยอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับบุคคลชื่อ “เบน สมิธ” ที่อาจเป็นหัวขบวนสำคัญ ธรรมนัสยืนยันไม่เคยข้องเกี่ยวธุรกิจสีเทา และเตรียมดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายทั้งคดีอาญาและเรียกค่าเสียหาย
ฟ้องแน่! ใครโยงสแกมเมอร์
ธรรมนัส ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาของ รังสิมันต์ โรม ไม่มีมูลความจริง และเป็นเพียงการนำข้อมูลจากข่าวต่างประเทศที่ไม่ถูกต้องมาขยายความ โดยตนเองไม่เคยมีรายได้จากธุรกิจสีเทา การทำงานก่อนเข้าสู่การเมืองก็มีอาชีพชัดเจน เสียภาษีถูกต้องทุกขั้นตอน พร้อมประกาศว่าจะดำเนินการฟ้องร้องอย่างจริงจัง ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย
เขาระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีคดีความอยู่ที่ศาลจังหวัดพะเยามากกว่า 270 คดี ซึ่งรวมถึงการฟ้องนักการเมืองที่กล่าวหาตนโดยไม่เป็นธรรม พร้อมเตือนผู้ที่นำข้อมูลบิดเบือนมาเผยแพร่ให้เตรียมรับผลทางกฎหมาย
ปฏิเสธรู้จัก “เบน สมิธ” ชี้อย่าบิดเบือน
เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์กับ “เบน สมิธ” ที่ถูกพาดพิงในสภา ธรรมนัส ตั้งคำถามกลับว่า บุคคลดังกล่าวได้ทำสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมย้ำว่าข่าวที่ถูกนำมาอ้างสร้างความเข้าใจผิดให้สังคม การนำภาพถ่ายร่วมโต๊ะอาหารกับอดีตนายกรัฐมนตรีหรือบุคคลต่างชาติมาเผยแพร่ ไม่ได้หมายความว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาแต่อย่างใด
เขาระบุว่า ตนไม่เพียงไม่เกี่ยวข้อง แต่ยังเคยมีบทบาทสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ และชี้ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเกิดจากการ “รับงานมาโจมตี” มากกว่าจะยึดข้อมูลข้อเท็จจริง

พร้อมชี้แจงต่อกรรมาธิการ ลั่น “อย่ามาขอโทษทีหลัง”
ธรรมนัส แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อการที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกชี้แจง โดยยืนยันพร้อมเข้าร่วมเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเตือนว่าผู้ที่เผยแพร่ข่าวผิด ๆ จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่พูด ไม่สามารถกลับคำภายหลังได้
เขากล่าวต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า หากใครกล้ากล่าวหา ต้องพร้อมไปต่อสู้กันในศาล ไม่ควรคิดว่าการกล่าวขอโทษจะทำให้เรื่องสิ้นสุด โดยยืนยันว่า “ปากกล้า ขาสั่น อย่ามาเล่นกับผม”
ไม่กังวลกระแสโจมตี มั่นใจชีวิตโปร่งใส
ธรรมนัส ย้ำว่าไม่เคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับสถานบริการผิดกฎหมายหรือธุรกิจสีเทา อาชีพก่อนเข้าสู่การเมืองคือการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่หนักใจกับข่าวโจมตี พร้อมยอมรับว่าการถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่ทำให้เสียศักดิ์ศรี เพราะชีวิตผ่านประสบการณ์การเมืองมาอย่างมาก
ท้ายที่สุด เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่พูดด้วยน้ำเสียงดัง เป็นเพราะต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงและสะท้อนว่า ข่าวที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ผู้กล่าวหาและสื่อมวลชนต้องเผชิญชะตากรรมทางกฎหมายในอนาคต