ส.ส. ประชาชน จวก! โยกย้ายผู้ว่า 3 จังหวัด ขวางพัฒนาพื้นที่

วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาชน จาก 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย และภูเก็ต ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) รอบล่าสุด โดยเห็นว่าการแต่งตั้งดังกล่าวสะท้อน “ระบบอุปถัมภ์” ที่ยังฝังรากในระบบราชการไทย เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องมากกว่าพิจารณาความรู้ความสามารถ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เพื่อให้การบริหารงานในพื้นที่เกิดความต่อเนื่องและตอบสนองต่อปัญหาของประชาชน เชียงใหม่โวยเปลี่ยนผู้ว่าถี่ กระทบแผนแก้ฝุ่น PM 2.5 น.ส.เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู สส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคประชาชน เปิดเผยว่า การโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งนี้สะท้อนชัดว่ารัฐบาลไม่ได้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ แต่เป็นการบริหารที่ขาดความต่อเนื่องและยึดโยงทางการเมืองมากกว่า เธอกล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนรับมือปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัด แต่กลับมีคำสั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งส่งผลให้ต้องเริ่มต้นประสานงานใหม่ทั้งหมด “เชียงใหม่ควรมีผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อให้การบริหารงานมีความต่อเนื่องและตอบโจทย์พื้นที่ได้จริง” น.ส.เพชรรัตน์กล่าว นอกจากนี้ เธอยังตั้งคำถามถึงการสานต่อโครงการขนส่งสาธารณะของเชียงใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างการผลักดันจากภาคประชาสังคมและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเดิมอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการขนส่งทางบกระดับจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน “เมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าฯ แล้ว ใครจะสานต่อ จะต้องนับหนึ่งกันใหม่อีกหรือไม่” เธอกล่าวย้ำ เชียงรายชะงัก แก้สารพิษน้ำกกสะดุดหลังย้ายผู้ว่าฯ น.ส.จุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย เขต 6 พรรคประชาชน กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายกำลังเผชิญปัญหาสำคัญจากสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำหลักของจังหวัด ได้แก่ แม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่เพิ่งวางแนวทางการแก้ไขร่วมกับส่วนกลาง แต่กลับมีการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดในช่วงจังหวะสำคัญ ทำให้การดำเนินงานต้องชะงักลง น.ส.จุฬาลักษณ์ยังอ้างถึงคำกล่าวของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายและประกาศบนเวทีว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่มีความเกี่ยวข้องทางเครือญาติกับภรรยาของตนเอง “นี่คือคำยืนยันจากปากผู้มีอำนาจว่าการแต่งตั้งผู้ว่าฯ ไม่ได้อิงหลักคุณธรรม แต่เป็นเรื่องเครือข่ายอุปถัมภ์ ซึ่งสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบราชการไทยอย่างชัดเจน” เธอกล่าว ภูเก็ตเปลี่ยนผู้ว่าฯ ภายใน 14 วัน สะเทือนแผนพัฒนาเมืองท่องเที่ยว นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคประชาชน เปิดเผยว่า การเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตภายในเวลาเพียง 14 วัน สร้างผลกระทบต่อการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวระดับโลกของจังหวัดอย่างมาก โดยเฉพาะแผนบริหารจัดการจราจร การจัดการพื้นที่สาธารณะ และการพัฒนาระบบคมนาคมครบวงจรที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เขากล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดคนก่อนเพิ่งเริ่มทำความเข้าใจโครงสร้างปัญหาและกำลังประสานงานเพื่อเร่งแก้ไข แต่กลับถูกย้ายออกโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน “การแต่งตั้งแบบนี้ทำให้ข้าราชการในพื้นที่ขาดขวัญกำลังใจ และส่งผลให้โครงการที่สำคัญต้องหยุดชะงัก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประชาชนและเศรษฐกิจท่องเที่ยวของภูเก็ตเลย” นายฐิติกันต์กล่าว พรรคประชาชนย้ำ กระจายอำนาจคือทางออก พรรคประชาชน ยืนยันว่า ปัญหาการโยกย้ายข้าราชการโดยขาดหลักเกณฑ์และความโปร่งใส เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การบริหารงานในพื้นที่ไม่ต่อเนื่อง และประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง พรรคจึงเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันการ กระจายอำนาจ สู่ท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการบริหารจังหวัดของตนเอง “การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการควรยึดความรู้ ความสามารถ และผลงานเป็นหลัก ไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์หรือผลประโยชน์ทางการเมือง” ตัวแทนพรรคประชาชนระบุ พร้อมเน้นว่าการปฏิรูประบบราชการเชิงโครงสร้างเป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน

“ลิซ่า ลลิษา” นั่งแท่น Amazing Thailand Ambassador โปรโมทท่องเที่ยวไทยปี 2569

บวรศักดิ์ เปิดไทม์ไลน์ ยุบสภา 31 ม.ค. 69 เลือกตั้งใหม่ 29 มี.ค.