อนุทิน ชาญวีรกูล นำทีมบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และคณะเข้าพบ กกต. หารือการจัดประชามติแก้รัฐธรรมนูญควบเลือกตั้งทั่วไป พร้อมพิจารณายกเลิก MOU 43-44 ระหว่างไทยและกัมพูชาในวันเดียวกัน
วันที่ 24 ตุลาคม 2568 อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ เข้าพบ อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อหารือแนวทางการจัด ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควบคู่กับ การเลือกตั้งทั่วไป ที่จะมีขึ้นหลังการยุบสภา รวมถึงแนวทางยกเลิก บันทึกความเข้าใจ (MOU) ฉบับปี 2543 และ 2544 ระหว่างไทย–กัมพูชา โดยสำนักงาน กกต. เปิดให้สื่อมวลชนบันทึกภาพเพียงช่วงต้น ก่อนปิดห้องหารือเป็นการภายใน
นายกฯ นำทีมเข้าพบ กกต. ถกประชามติควบเลือกตั้ง
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ โดย อนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางพร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล ได้แก่ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี, ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ไตรสุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ อนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
เป้าหมายหลักของการเข้าพบในครั้งนี้ คือการขอหารือแนวทางทางกฎหมายและทางปฏิบัติ ว่าจะสามารถจัดให้มี ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ การเลือกตั้งทั่วไป ในวันเดียวกันได้หรือไม่ เพื่อประหยัดงบประมาณและเวลาในการบริหารจัดการเลือกตั้ง รวมถึงเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการปรับโครงสร้างทางการเมือง
ถกยกเลิก MOU 43-44 ประเด็นอ่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา
อีกหนึ่งวาระสำคัญที่ถูกนำมาหารือคือแนวทางการ ยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 ซึ่งเป็นบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชา ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนบริเวณพื้นที่ทับซ้อน โดยเฉพาะในเขตจังหวัดสระแก้วและจังหวัดศรีสะเกษ
ประเด็นนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากภาคประชาชนและนักวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากถูกมองว่าทำให้ไทยเสียเปรียบในเชิงอธิปไตย การยกเลิก MOU ทั้งสองฉบับจึงถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลอนุทิน ซึ่งต้องอาศัยความเห็นชอบจากหลายหน่วยงาน รวมถึง กกต. ในการจัดกระบวนการประชามติให้เป็นไปตามกฎหมาย
ประธาน กกต. ให้การต้อนรับ ก่อนหารือปิดห้อง
อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และ แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้การต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ โดยอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพช่วงต้นของการประชุม ก่อนจะปิดห้องหารือเป็นการภายใน
การพูดคุยครั้งนี้คาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่การจัดตารางเวลาและขั้นตอนทางกฎหมายของการทำประชามติควบคู่กับการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบการเลือกตั้ง โดยภายหลังการหารือ ยังไม่มีการแถลงรายละเอียดต่อสาธารณะ
