อนุทิน ชาญวีรกูล แจงกรณีดีเอสไอตรวจสอบปริ้นซ์กรุ๊ปในอาคารซิโน-ไทย ยันเป็นเพียงผู้เช่า ไม่เกี่ยวครอบครัว หากทำผิดกฎหมายให้ดำเนินคดีตามกระบวนการ
วันที่ 24 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจสอบบริษัทและผู้ถือหุ้นชาวไทยของ ปริ้นซ์ กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคาร ซิโน-ไทย โดยยืนยันว่าบริษัทดังกล่าวเป็นเพียงผู้เช่าพื้นที่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนหรือครอบครัว หากผู้เช่าทำผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบตามกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นใคร พร้อมย้ำว่า “อย่าผูกโยง” กับตระกูลหรือธุรกิจส่วนตัวของตน
อนุทินยัน “ซิโน-ไทย” ไม่มีเอี่ยวกิจการสแกมเมอร์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวถึงกรณีที่ ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบบริษัท ปริ้นซ์ กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารซิโน-ไทย ว่า อาคารดังกล่าวดำเนินธุรกิจในรูปแบบ “อาคารให้เช่า” โดยเปิดรับผู้เช่าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานหรือบริษัทเอกชน แต่หากผู้เช่ามีพฤติกรรมผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการ ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าของอาคารแต่อย่างใด
นายกรัฐมนตรีกล่าวพร้อมชี้นิ้วระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า “คุณอย่าผูก ถ้าบริษัทซิโน-ไทย ทำสแกมเมอร์เอง คุณค่อยมาดูว่ามันเกี่ยวข้องกับครอบครัวผมหรือไม่ แต่นี่เขามาเช่า” พร้อมยืนยันว่า “ตนและครอบครัวไม่มีส่วนรู้เห็นกับกิจกรรมของผู้เช่า”
สั่งญาติหากพบเอี่ยว ให้ยกเลิกสัญญาทันที
นายอนุทิน ระบุว่า คำว่า “ปริ๊นซ์” เป็นคำสามัญที่ใช้ทั่วไป ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับตนหรือบริษัทในเครือแต่อย่างใด แต่หากภายหลังพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย ก็พร้อมให้ญาติหรือผู้บริหารอาคาร ซิโน-ไทย ยกเลิกสัญญาเช่าโดยทันที
เขากล่าวต่อว่า การดำเนินธุรกิจของซิโน-ไทยเป็นไปตามหลักพาณิชย์ทั่วไป ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือสัมพันธ์กับกิจการใดที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย พร้อมย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค
ยืนยันรู้ความเคลื่อนไหว “ดีเอสไอ” และไม่กังวลปัญหาจริยธรรม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับรายงานจาก ดีเอสไอ แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า ทราบว่ากลุ่มปริ้นซ์มีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้สนใจว่าอยู่ในอาคารใด หากพบการกระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม
เขาเสริมว่า “ตอนแรกบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกัน แต่หากตรวจสอบแล้วเกี่ยวข้องจริง ก็ต้องถูกดำเนินคดีเต็มที่” พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่แทรกแซงการทำงานของหน่วยงานสอบสวน
คุย “วรภัค” แล้ว เข้าใจกันดี ย้ำไม่กลัวถูกร้องจริยธรรม
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อ นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ถูกเชื่อมโยงกับเรื่องดังกล่าวว่า ได้พูดคุยและทำความเข้าใจกันแล้ว ยืนยันว่าไม่กังวลและไม่กลัวจะถูกร้องเรียนจริยธรรม เพราะได้ตรวจสอบทุกอย่างอย่างโปร่งใส
“ตอนนี้เป็นเพียงข้อครหา ยังไม่มีคดีใดเกิดขึ้น ถ้ามีข้อกล่าวหาก็พร้อมให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมเปิดเผยว่ามีการส่งหนังสือชี้แจงมายังตนแล้วเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา


