กมธ.ต่างประเทศจ่อเรียก “อนุทิน–สีหศักดิ์” ชี้แจง ปมทำ MOU แร่แรร์เอิร์ธ

กรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกอนุทินและสีหศักดิ์ ชี้แจงเอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธกับสหรัฐฯ หลังถูกวิจารณ์ว่าเจรจาอย่างลับ ๆ และไม่เปิดเผยต่อประชาชน

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เตรียมเชิญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ หลังรัฐบาลลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้าน แร่ธาตุสำคัญ (Rare Earths) กับสหรัฐอเมริกา โดยไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะและรัฐสภา จนก่อให้เกิดข้อกังวลเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศ

กมธ.จี้รัฐบาลเปิดข้อมูลเอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธให้สาธารณชนรับรู้

น.ส.สรัสนันท์ ระบุว่า การลงนามเอ็มโอยูแร่แรร์เอิร์ธกับสหรัฐฯ เป็นเรื่องใหญ่ที่อาจมีผลต่อคนไทยในระยะยาว แม้รัฐบาลอ้างว่าเป็นเพียงบันทึกความเข้าใจที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายและสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือความไม่โปร่งใสในการเจรจา ซึ่งประชาชนและรัฐสภาไม่เคยรับทราบข้อมูลมาก่อนว่า ไทยได้หารือกับสหรัฐฯ ในประเด็นนี้เมื่อใด และมีเงื่อนไขหรือพันธะใดที่อาจกระทบต่อประเทศ

เธอย้ำว่า กรรมาธิการจะเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยกระบวนการเจรจาอย่างละเอียด รวมถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของชาติ เพื่อให้สังคมตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส พร้อมเตือนว่าการดำเนินการใด ๆ ที่อาจมีผลระยะยาวต่อทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ต้องอยู่ภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชน

พิชัยชี้ไม่เคยมีการเจรจาในอดีต จี้รัฐบาลอนุทินอย่าปกปิดประชาชน

ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตหัวหน้าคณะเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยืนยันว่า ในอดีตไม่เคยมีการหารือเรื่องแร่แรร์เอิร์ธในโต๊ะเจรจา จึงมองว่ารัฐบาลปัจจุบันควรตระหนักถึงมิติทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อนของประเด็นนี้ เพราะแร่ธาตุหายากเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเรียก นายอนุทิน และ นายสีหศักดิ์ มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร เพื่อให้มั่นใจว่าการลงนามเอ็มโอยูครั้งนี้ไม่ได้ลุแก่อำนาจหรือซ่อนรายละเอียดที่อาจสร้างผลกระทบต่อประชาชน พร้อมย้ำว่าประชาชนมีสิทธิ์รู้ทุกขั้นตอนของการเจรจา

กมธ.ย้ำจะไม่ยอมให้รัฐบาลปิดบังข้อมูลที่กระทบประชาชน

ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศระบุชัดว่า คณะกรรมาธิการจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะไม่ยอมให้รัฐบาลดำเนินการในลักษณะที่ “ปิดลับ” หรือ “งุบงิบ” กับประชาชน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงอย่างเป็นทางการในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการลงนามความร่วมมือกับต่างประเทศครั้งนี้ไม่เป็นภัยต่อผลประโยชน์ของชาติ

เธอยืนยันว่า การตรวจสอบเชิงนโยบายต่างประเทศเป็นหน้าที่สำคัญของสภา และเป็นกลไกป้องกันไม่ให้การเจรจาระหว่างประเทศกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่อาจสร้างผลเสียในอนาคต


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

“อภิสิทธิ์” แจง กมธ. ปมยกเลิก MOU 43-44 จี้รบ.กำหนดนโยบายให้ชัดเจน

สว. มีมติฟัน “นันทนา” ผิดจริยธรรมร้ายแรง ปมดูหมิ่นอาชีพขายหมู