สว. มีมติฟัน “นันทนา” ผิดจริยธรรมร้ายแรง ปมดูหมิ่นอาชีพขายหมู

ที่ประชุมวุฒิสภามีมติ 130 ต่อ 26 เสียง เห็นว่า “นันทนา นันทวโรภาส” ผิดจริยธรรมร้ายแรง ปมดูหมิ่นอาชีพขายหมู สั่งส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการทางกฎหมาย

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา ที่ประชุมวุฒิสภามีมติด้วยคะแนนเสียง 130 ต่อ 26 เสียง ให้ถือว่า น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา กระทำการ ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีให้ถ้อยคำดูหมิ่นเพื่อนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอาชีพขายหมู โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม พร้อมสั่งส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่ประชุมวุฒิสภามีมติชี้ “นันทนา” ผิดจริยธรรมเสียงข้างมาก

การประชุมวุฒิสภาในวันดังกล่าวใช้เวลาพิจารณากว่า 5 ชั่วโมง โดยมี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา รายงานผลการสอบสวนกรณีที่ น.ส.นันทนา ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมดูหมิ่นเพื่อนสมาชิกวุฒิสภาที่ประกอบอาชีพขายหมู ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืน ข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของวุฒิสภา พ.ศ. 2563

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมชี้ว่า น.ส.นันทนา แสดงพฤติกรรมไม่เป็นกลาง มีอคติต่อกลุ่มอาชีพ และแสดงถ้อยคำที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่น ซึ่งกระทบต่อศักดิ์ศรีของการดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก จึงเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาลงมติว่าจะเห็นชอบตามรายงานหรือไม่

มติลับชี้ขาด 130 ต่อ 26 เสียง ฟันผิดจริยธรรมร้ายแรง

หลังการอภิปราย ที่ประชุมได้ลงมติแบบลับผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผลปรากฏว่า วุฒิสภามีมติ 130 ต่อ 26 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการจริยธรรม โดยมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ ถือเป็นมติชี้ขาดว่าการกระทำของ น.ส.นันทนา เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้แถลงหลังการลงมติว่า มติของที่ประชุมดังกล่าวเป็นไปตามข้อบังคับและมติสามในห้าของสมาชิกทั้งหมด หรืออย่างน้อย 119 เสียง จึงถือว่ามีผลสมบูรณ์ตามขั้นตอนกฎหมาย และให้ส่งเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยและกฎหมายต่อไป

ปมคำพูดดูหมิ่นอาชีพจุดชนวนถกจริยธรรมในวุฒิสภา

กรณีดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่ น.ส.นันทนา แสดงความเห็นเชิงเสียดสีต่อเพื่อนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอาชีพขายหมู ซึ่งถูกมองว่าเป็นการดูหมิ่นอาชีพสุจริตและไม่ให้เกียรติผู้ประกอบอาชีพสุจริตทั่วไป จนมีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการจริยธรรมให้ตรวจสอบ

คณะกรรมการฯ เห็นว่า การกระทำของเธอสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวุฒิสภาและลดทอนความน่าเชื่อถือของสถาบัน จึงมีมติให้เสนอเรื่องต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาลงโทษ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติขั้นเด็ดขาดตามรายงาน

ขั้นตอนต่อไป ป.ป.ช. รับเรื่องดำเนินการตามกฎหมาย

หลังมติของวุฒิสภา นายมงคลยืนยันว่าจะส่งเอกสารและรายงานการพิจารณาทั้งหมดให้แก่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งอาจรวมถึงการพิจารณาว่าจะให้พ้นจากตำแหน่ง หรือมีบทลงโทษทางวินัยตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกลไกตรวจสอบภายในของวุฒิสภา เพื่อสร้างบรรทัดฐานด้านจริยธรรมของสมาชิก และยืนยันถึงความโปร่งใสของกระบวนการทางรัฐสภา


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

กมธ.ต่างประเทศจ่อเรียก “อนุทิน–สีหศักดิ์” ชี้แจง ปมทำ MOU แร่แรร์เอิร์ธ

ครป. ร้อง “อนุทิน” ตรวจสอบ ประธาน กสทช. ขาดคุณสมบัติ-แจ้งข้อมูลเท็จ