“รังสิมันต์ โรม” ถาม “ธรรมนัส–นฤมล–วรภัค” กลัวอะไร? ไม่มาแจง กมธ.

รังสิมันต์ โรม วิจารณ์ ธรรมนัส–นฤมล–วรภัค–วราห์ ไม่มาชี้แจง กมธ. ปมเอี่ยว เบน สมิธ ฝากถาม “กลัวอะไร” เตรียมเสนอญัตติด่วนเร่งรัฐบาลปราบสแกมเมอร์ให้สำเร็จก่อนสิ้นปีนี้

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ แสดงความเสียดายที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์, นายวรภัค ธันยาวงษ์ และ นายวราห์ สุจริตกุล ไม่มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในคดีที่เกี่ยวข้องกับ “เบน สมิธ” ผู้ต้องสงสัยในเครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ พร้อมฝากคำถาม “กลัวอะไร ทำไมไม่มาตอบคำถาม” และเตรียมเสนอญัตติด่วนให้รัฐบาลจัดการปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้

กมธ.มั่นคงขอคำชี้แจง 4 บุคคลสำคัญ ปมเชื่อมโยงเครือข่าย “เบน สมิธ”

นายรังสิมันต์กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมาธิการวันนี้เป็นการพิจารณาต่อเนื่องในประเด็นการสืบสวนเครือข่ายสแกมเมอร์ ซึ่งมี นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ เป็นตัวละครสำคัญ โดยกรรมาธิการได้เชิญบุคคล 4 ราย คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์, นายวรภัค ธันยาวงษ์ และ นายวราห์ สุจริตกุล เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินและความเกี่ยวพันกับกลุ่มทุนสีเทา

อย่างไรก็ตาม บุคคลทั้งสี่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม โดยอ้างเหตุจำเป็นส่วนตัวหรือภารกิจประจำ ขณะที่กรรมาธิการยืนยันว่าการเชิญดังกล่าวเป็นโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงความโปร่งใสต่อสาธารณะ

นายรังสิมันต์ระบุว่า “การไม่มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการคือการพลาดโอกาสสำคัญ และย่อมก่อให้เกิดคำถามต่อสังคมว่ากลัวอะไร โดยเฉพาะผู้ที่มีตำแหน่งในรัฐบาล” พร้อมกล่าวว่าหากรัฐจริงใจในการปราบปรามสแกมเมอร์ ควรให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ชี้รัฐต้องตรวจเส้นทางฟอกเงิน – แก๊งสแกมเมอร์ใช้ “นอมินี” บังหน้า

ประธานกรรมาธิการมั่นคงฯ ระบุว่า ปัจจุบันขบวนการสแกมเมอร์มีพัฒนาการซับซ้อนขึ้น โดยอาศัยบุคคลนอมินีและธุรกิจบังหน้าในการฟอกเงิน ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ “หากหน่วยงานรัฐไม่สืบหาต้นทางและปลายทางทางการเงิน ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปราบปรามได้จริง”

เขาย้ำว่า “การฟอกเงินจะไม่รุนแรงขนาดนี้ ถ้าไม่ได้รับการปกป้องจากอำนาจรัฐ” พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดบุคคลระดับรัฐมนตรีบางรายจึงมีชื่อพัวพันกับกลุ่มฟอกเงินและสแกมเมอร์ เช่น ร.อ.ธรรมนัส และ นางนฤมล ที่ไม่มาชี้แจงในวันนี้ รวมถึง นายวรภัค ที่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังไปก่อนหน้านี้

“รังสิมันต์” ฝากถาม “กลัวอะไร” – ชี้ไม่มาตอบ ยิ่งสร้างข้อสงสัย

นายรังสิมันต์ระบุว่า หากผู้ถูกเชิญมาชี้แจงเชื่อมั่นว่าตนบริสุทธิ์ใจ ก็ไม่ควรหลีกเลี่ยง เพราะการปฏิเสธที่จะมาชี้แจงอาจสร้างข้อกังขาต่อสังคมมากขึ้น เขากล่าวว่า “เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายบริหาร คำถามคือใครได้ประโยชน์จากความเงียบนี้ เพราะไม่ใช่ประชาชนแน่นอน”

ทั้งนี้ เขาเปิดเผยด้วยว่า ได้เชิญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาชี้แจงในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมในการจัดการขบวนการดังกล่าว

พาดพิง “ธรรมนัส–ชนนพัฒฐ์” เชื่อรู้เห็นขบวนการ – “โจรจะช่วยโจร”

ในการให้สัมภาษณ์ นายรังสิมันต์กล่าวถึง ร.อ.ธรรมนัส ว่า “เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้เรื่องนักการเมืองที่มีเอี่ยวกับเว็บพนันหรือสแกมเมอร์ เพราะอยู่ในวงการนี้มานาน” พร้อมระบุว่าเชื่อว่า นายธรรมนัสรู้ดีว่านายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว คือใคร และมีบทบาทอย่างไรในเครือข่ายอาชญากรรม

“โจรจะปราบโจรไม่ได้ มีแต่โจรช่วยโจร หรือไม่ก็โจรอุ้มโจร” นายรังสิมันต์กล่าว พร้อมย้ำว่า ข้อมูลที่กรรมาธิการได้รับจากหน่วยงานต่างประเทศชี้ชัดว่า ขบวนการสแกมเมอร์และเว็บพนันมีเครือข่ายบัญชีม้าร่วมกัน และอาจมีศูนย์ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

เตรียมเสนอญัตติด่วน เร่งรัฐบาลปราบแก๊งสแกมเมอร์ก่อนสิ้นปี

นายรังสิมันต์เปิดเผยว่า จะเสนอ ญัตติด่วนด้วยวาจา ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้รัฐบาลเร่งรัดการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ให้สำเร็จก่อนสิ้นปีนี้ โดยอ้างถึง “ปฏิญญาสันติภาพ ไทย–กัมพูชา” ที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามร่วมกัน

เขาเตือนว่าหากรัฐบาลไทยไม่เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง จะกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในฐานะที่ไทยเป็นผู้เสนอญัตติในที่ประชุม IPU (Inter-Parliamentary Union) เกี่ยวกับการปราบสแกมเมอร์ พร้อมระบุว่า “นี่คือช่วงเวลาชี้ชะตาความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยในสายตาชาวโลก”

กมธ.มั่นคงเผยรายชื่อผู้ไม่มาชี้แจง – แจงเหตุผลส่วนตัว

สำหรับบรรยากาศการประชุม นายรังสิมันต์เปิดเผยว่า นายวรภัค ธันยาวงษ์ แจ้งไม่สามารถเข้าร่วมได้เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท ขณะที่ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ติดภารกิจเป็นประธานการประชุมคุรุสภา และ นายวราห์ สุจริตกุล ชี้แจงว่าได้รับหนังสือเชิญกระชั้นชิด ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่มีหนังสือแจ้งเหตุขัดข้อง

กรรมาธิการยังเชิญหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรายงานของสื่อต่างประเทศ ซึ่งเปิดเผยแผนผังการฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์และธนาคาร B.I.C Group ในกัมพูชา เพื่อขยายผลการตรวจสอบต่อไป


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

เพื่อไทยหนุน “จุลพันธ์” ขึ้นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ดึง “ประเสริฐ” คืนเก้าอี้เลขาฯ

กัน จอมพลัง โชว์เอกสาร หน่วยงานขอรับบริจาค ย้ำทำเพื่อทหาร-ตร.แนวหน้า