ธนกร วังบุญคงชนะ ชื่นชมผลงานอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่สามารถพาไทยกลับสู่สายตาประชาคมโลกอีกครั้ง พร้อมชูบทบาทเชิงรุกในเวที APEC และการเจรจากับจีน
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวยกย่องการทำงานของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่สามารถพาประเทศไทยกลับมาอยู่ในสายตาของประชาคมโลกอีกครั้ง ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยชี้ว่าการแสดงบทบาทเชิงรุกบนเวทีระหว่างประเทศของไทย ทั้งในเวที APEC และการเจรจาระดับผู้นำกับจีน ได้สร้างความเชื่อมั่นใหม่ให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการลงทุนและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
บทบาทเชิงรุกของรัฐบาลไทยบนเวทีโลก
นายธนกรเปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทินได้แสดงศักยภาพอย่างโดดเด่นในเวทีโลก โดยเฉพาะการที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงตอบโต้ข้อกล่าวหาของกัมพูชาอย่างเฉียบคมและมีเหตุผล จนได้รับเสียงปรบมือจากผู้แทนนานาชาติ สะท้อนภาพลักษณ์ของไทยที่มั่นใจในจุดยืนและมีบทบาทสร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) นายอนุทินได้เสนอแนวนโยบาย Quick Big Win ชูจุดแข็งของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการเติบโตสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การเจรจาทวิภาคีสะท้อนศักยภาพเศรษฐกิจไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมยังกล่าวถึงการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่นายอนุทินใช้โอกาสติดตามผลการเจรจาซื้อข้าวไทยจำนวน 500,000 ตัน พร้อมยืนยันจุดยืนของรัฐบาลว่า จะไม่ใช้ “คาสิโน” เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะเน้นการส่งเสริมสินค้าไทย นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นายธนกรกล่าวเพิ่มเติมว่า การเจรจาครั้งนี้ยังเป็นโอกาสในการเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทย ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ สร้างรายได้หมุนเวียนให้เศรษฐกิจไทยในระยะสั้นและระยะยาว
นานาชาติเริ่มจับตาไทยในฐานะพันธมิตรทางเศรษฐกิจ
นายธนกรสรุปว่า แม้รัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน แต่ทิศทางการต่างประเทศที่นายอนุทินวางไว้เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยผู้นำหลายประเทศให้ความสนใจและเปิดรับการเจรจาความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายเชิงรุกของรัฐบาลจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการยกระดับบทบาทของประเทศไทยในประชาคมโลก และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในฐานะพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวยกย่องการทำงานของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่สามารถพาประเทศไทยกลับมาอยู่ในสายตาของประชาคมโลกอีกครั้ง ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยชี้ว่าการแสดงบทบาทเชิงรุกบนเวทีระหว่างประเทศของไทย ทั้งในเวที APEC และการเจรจาระดับผู้นำกับจีน ได้สร้างความเชื่อมั่นใหม่ให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการลงทุนและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
บทบาทเชิงรุกของรัฐบาลไทยบนเวทีโลก
นายธนกรเปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทินได้แสดงศักยภาพอย่างโดดเด่นในเวทีโลก โดยเฉพาะการที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงตอบโต้ข้อกล่าวหาของกัมพูชาอย่างเฉียบคมและมีเหตุผล จนได้รับเสียงปรบมือจากผู้แทนนานาชาติ สะท้อนภาพลักษณ์ของไทยที่มั่นใจในจุดยืนและมีบทบาทสร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) นายอนุทินได้เสนอแนวนโยบาย Quick Big Win ชูจุดแข็งของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการเติบโตสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การเจรจาทวิภาคีสะท้อนศักยภาพเศรษฐกิจไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมยังกล่าวถึงการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่นายอนุทินใช้โอกาสติดตามผลการเจรจาซื้อข้าวไทยจำนวน 500,000 ตัน พร้อมยืนยันจุดยืนของรัฐบาลว่า จะไม่ใช้ “คาสิโน” เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะเน้นการส่งเสริมสินค้าไทย นวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นายธนกรกล่าวเพิ่มเติมว่า การเจรจาครั้งนี้ยังเป็นโอกาสในการเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทย ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ สร้างรายได้หมุนเวียนให้เศรษฐกิจไทยในระยะสั้นและระยะยาว
นานาชาติเริ่มจับตาไทยในฐานะพันธมิตรทางเศรษฐกิจ
นายธนกรสรุปว่า แม้รัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน แต่ทิศทางการต่างประเทศที่นายอนุทินวางไว้เริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยผู้นำหลายประเทศให้ความสนใจและเปิดรับการเจรจาความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวม
ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายเชิงรุกของรัฐบาลจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการยกระดับบทบาทของประเทศไทยในประชาคมโลก และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในฐานะพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ


