อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ระบุไม่ขัดข้องฝ่ายค้านยื่นซักฟอก แต่ควรพิจารณาความจำเป็นเพราะรัฐบาลทำงานได้เพียง 120 วัน พร้อมชี้แจงว่าพรรคกล้าธรรมพร้อมตอบทุกข้อกล่าวหาในสภา
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และประธานยุทธศาสตร์ของพรรค กล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยยืนยันว่าไม่มีความขัดข้อง เพราะเป็นอำนาจตามรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร แต่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการใช้มาตรการนี้ในช่วงที่รัฐบาลเพิ่งเข้าทำงานได้เพียง 120 วัน พร้อมระบุว่าฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคประชาชนยังเคยร่วมลงนามใน MOA กับรัฐบาล ซึ่งควรนำมาพิจารณาประกอบด้วย
กล้าธรรมยันไม่ขวางซักฟอก แต่ขอพิจารณาเรื่องความเหมาะสม
น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุว่า แม้กลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิของฝ่ายค้านและเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางตรวจสอบรัฐบาล แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าเหมาะสมเพียงใด เมื่อรัฐบาลมีกรอบเวลาทำงานจริงเพียง 4 เดือน และยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นวางนโยบายและปรับโครงสร้างการบริหารงานภาครัฐ การใช้มาตรการซักฟอกในจังหวะนี้อาจไม่เอื้อต่อการขับเคลื่อนงานที่เร่งด่วนของประเทศ
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ฝ่ายค้านลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOA) กับรัฐบาล แม้ไม่ใช่ข้อผูกมัดทางกฎหมาย แต่ถือเป็นเงื่อนไขทางการเมืองที่สะท้อนเจตจำนงร่วมในการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน จึงควรถูกนำมาประเมินว่าเวลานี้เหมาะสมที่จะใช้กลไกซักฟอกหรือไม่
ตั้งคำถามฝ่ายค้านจำเป็นต้องซักฟอกหรือ หากหวังประโยชน์ประชาชนจริง
รองเลขาธิการฝ่ายการเมืองตั้งข้อสังเกตว่า แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ทุกฝ่ายต้องตอบคำถามให้ได้ว่า การดำเนินการครั้งนี้จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้ประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลยังมีระยะเวลาทำงานที่จำกัด และต้องเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมหลายด้าน การใช้เวลาของสภาไปกับการซักฟอกอาจส่งผลให้การผลักดันกฎหมายสำคัญล่าช้าออกไป
เขาย้ำว่า พรรค กล้าธรรม พร้อมชี้แจงทุกประเด็น หากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปราย แต่เห็นว่าเมื่อพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมด ทั้งระยะเวลาทำงาน MOA ร่วมกัน และสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ฝ่ายค้านควรทบทวนว่าการซักฟอกเป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่ในช่วงเวลาที่จำกัดเพียง 120 วัน
กล้าธรรมย้ำพร้อมชี้แจงทุกเวที หากมีญัตติยื่นเข้าสภา
ประธานยุทธศาสตร์พรรคยืนยันว่า หากฝ่ายค้านเดินหน้ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลและพรรคกล้าธรรมพร้อมเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส โดยถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงผลงานในช่วงเริ่มต้นบริหารประเทศ ซึ่งหลายโครงการยังอยู่ระหว่างการดำเนินงานและต้องได้รับเวลาเพื่อพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม
เขากล่าวว่าการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะจะช่วยลดความคลุมเครือ และทำให้ทุกภาคส่วนเห็นภาพการทำงานจริงของรัฐบาล แต่ยังเชื่อว่า หากฝ่ายค้านประเมินอย่างเป็นธรรม จะพบว่าช่วงเวลาเพียง 4 เดือนยังเร็วเกินไปสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งโดยหลักการควรเกิดขึ้นหลังรัฐบาลมีรอบการทำงานที่ชัดเจนและมีผลงานให้ตรวจสอบมากพอ
