สุชาติ ชมกลิ่น ยืนยันเคลียร์ใจสนธยา คุณปลื้ม ลงตัวปิดดีลลงสมัคร สส.ชลบุรี เขต 1 ผนึกพลังสองบ้านการเมืองใหญ่สู่บ้านเดียวกันในนามพรรคภูมิใจไทย พร้อมมอนิเตอร์ยุทธศาสตร์เลือกตั้งทั้งจังหวัด
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าได้พูดคุยทำความเข้าใจกับ สนธยา คุณปลื้ม แกนนำการเมืองชลบุรี จนบรรลุข้อตกลงให้ตนลงสมัคร สส.ชลบุรี เขต 1 ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าการรวมตัวของสองบ้านการเมืองใหญ่จะตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และช่วยวางยุทธศาสตร์เลือกตั้งจังหวัดชลบุรีอย่างเป็นเอกภาพภายใต้พรรคภูมิใจไทย
สุชาติย้ำเคลียร์ใจลงตัว พร้อมลงสนามเขต 1 ชลบุรี
สุชาติ ชมกลิ่น เปิดเผยว่า การหารือกับ สนธยา คุณปลื้ม เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความราบรื่น ทั้งสองฝ่ายพูดคุยทุกประเด็นเกี่ยวกับการจัดตัวผู้สมัครในเขตต่างๆ ของจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะ เขต 1 ที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อคะแนนรวมทั้งจังหวัด จึงต้องหาบุคคลที่เหมาะสมที่สุดลงแข่งขัน
เขาระบุว่า สนธยาเข้าใจและเห็นด้วยที่ตนจะกลับมาลงสมัครที่เขตนี้ เนื่องจากเคยได้รับเลือกตั้งหลายสมัยและมีฐานเสียงชัดเจนในพื้นที่ การขึ้นบัญชีรายชื่อก่อนหน้านี้เป็นเพียงบทบาทชั่วคราวเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและอดีตนายกรัฐมนตรีในช่วงการบริหารประเทศ
ผนึกกำลังตระกูลการเมืองชลบุรี สู่ “บ้านเดียวกัน” ใต้พรรคภูมิใจไทย
สุชาติย้ำว่า การจัดสรรผู้สมัครทั้ง 10 เขตของจังหวัดชลบุรีจะไม่เกิดความขัดแย้ง เพราะเขาและสนธยาทำงานร่วมกันมานาน และถือเป็น “พี่น้องทางการเมือง” อยู่แล้ว การรวมพลังครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองกลุ่มขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ร่วมกันอย่างมีเอกภาพ โดยยึดเป้าหมายเดียวคือผลประโยชน์ของคนชลบุรี
เขายังกล่าวว่า การรวมตัวของสองบ้านการเมืองไม่ใช่เพียงแค่ยุทธวิธีเพื่อรับมือการแข่งขันจากพรรคการเมืองอื่น แต่ยังเป็นความต้องการของประชาชนในจังหวัดที่อยากเห็นการเมืองท้องถิ่นเดินหน้าอย่างมั่นคง เขามองว่าทุกฝ่ายในพื้นที่คือ “ไผ่กอเดียวกัน” และเมื่อรวมกันภายใต้ พรรคภูมิใจไทย ก็จะเป็นพลังที่เข้มแข็งกว่าเดิม
ร่วมวางแผนคุมทุกเขต มอนิเตอร์สถานการณ์เลือกตั้งแบบรายวัน
สุชาติอธิบายว่า หลังการพูดคุยตกผลึก ทั้งฝ่ายของเขาและของสนธยาจะร่วมกันติดตามสถานการณ์ทางการเมืองของแต่ละเขตแบบรายวัน เพื่อปรับทิศทางหาเสียงให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวในพื้นที่ เป็นการทำงานเชิงรุกที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลจริงจากประชาชนมากกว่าโพลหรือกระแสในโลกออนไลน์
เขามั่นใจว่ารูปแบบการทำงานร่วมกันเช่นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางตัวผู้สมัครของพรรค และลดความสับสนของประชาชนที่ต้องการเห็นความชัดเจนทางการเมืองจังหวัดชลบุรีในช่วงก่อนการเลือกตั้ง


