นายกฯ ขีดเส้น 14 วัน หาดใหญ่ต้องสะอาด เร่งชงมาตรการเข้าครม.

นายกฯ อนุทิน ลงพื้นที่หาดใหญ่ กำหนดเส้นตาย 7 วันประชาชนต้องกลับบ้านได้ และ 14 วันเมืองต้องสะอาด พร้อมชงมาตรการเยียวยา–ฟื้นฟูเศรษฐกิจเข้าครม.เศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรี “อนุทิน ชาญวีรกูล” ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ ประกาศกำหนดเส้นตาย 7 วันประชาชนต้องได้กลับเข้าบ้าน และภายใน 14 วันเมืองต้องสะอาด พร้อมเร่งชงมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจด่วนเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ 1 ธันวาคมนี้ ย้ำให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิต ความเป็นอยู่ และการกลับมาของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน

หาดใหญ่เริ่มลดระดับน้ำ เร่งฟื้นฟูเมืองทันที

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสงขลา โดยระบุว่าวันนี้ถือเป็นวันที่สำคัญ เนื่องจากได้พบปะผู้แทนภาคเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งภาคการค้า การท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งต่างสะท้อนความเสียหายที่ประชาชนและภาคธุรกิจกำลังเผชิญ พร้อมเสนอแนวทางฟื้นฟูในหลายมิติ

นายกฯ ระบุว่า ระดับน้ำในเขตเมืองหาดใหญ่ลดลงเกือบทั้งหมดแล้ว สิ่งที่ต้องทำทันทีคือการฟื้นฟูด้านความปลอดภัยทางสาธารณสุข เช่น การควบคุมสารปนเปื้อน การป้องกันโรค การตรวจสอบไฟฟ้าในบ้านเรือน และการเร่งฟื้นฟูระบบประปาให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ขณะเดียวกันได้สั่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ และหน่วยงานรัฐร่วมกับกองทัพ ระดมกำลังทำความสะอาดและเก็บกวาดขยะสิ่งของเสียหายออกจากพื้นที่โดยเร็ว

นายอนุทินกำหนดชัดเจนว่า

“ภายใน 7 วัน ประชาชนต้องได้กลับเข้าบ้าน”

“ภายใน 14 วัน เมืองหาดใหญ่ต้องกลับมาสะอาด”

เคาะมาตรการเร่งด่วน รับข้อมูลตรงจากภาคเศรษฐกิจ

นายกฯ กล่าวว่า ข้อมูลจำนวนมากที่ได้รับจากสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ทำให้เห็นถึงความจำเป็นต้องออกมาตรการเร่งด่วน ทั้งในด้านสาธารณสุข การเยียวยาครัวเรือน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิต ความเป็นอยู่ และการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในภาคใต้อย่างครอบคลุม

หลายประเด็นสามารถสั่งการได้ทันที ขณะที่บางส่วนมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการและรายงานผลโดยเร็ว โดยเป้าหมายคือให้การช่วยเหลือเกิดขึ้นจริงภายในระยะเวลาอันสั้นที่สุด

เยียวยาครัวเรือน–กู้ฟื้นฟู–แรงงาน “คนละครึ่ง” 6 เดือน

ด้านมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการเร่งด่วนหลายแนวทาง ได้แก่

เงินเยียวยาตามระเบียบ สูงสุด 90,000 บาทต่อครัวเรือน

การช่วยซ่อมบ้านผู้สูงอายุ ไม่เกิน 49,000 บาท

เงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต รายละ 2,000,000 บาท

กระทรวงการคลังเตรียมเปิดให้กู้ฟื้นฟู ครัวเรือนละ 100,000 บาท

สินเชื่อปลอดดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ 1 ปี

สำนักงานประกันสังคมกำลังพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือแรงงานในรูปแบบ “คนละครึ่ง” ระยะเวลา 6 เดือน

นายกฯ ชี้ว่า มาตรการเหล่านี้เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้ประชาชนสามารถซ่อมบ้าน ซ่อมอุปกรณ์ทำกิน และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้โดยเร็วที่สุด

งบเยียวยา “พร้อมใช้” – ย้ำไม่มีติดขัด

นายกรัฐมนตรียืนยันว่า งบประมาณหลักสำหรับการเยียวยาได้รับการอนุมัติแล้ว และได้หารือกับสำนักงบประมาณเพื่อเตรียมจัดสรรงบเพิ่มเติมในส่วนที่จำเป็น โดยระบุว่า “ยังไม่มีปัญหาติดขัดเรื่องงบประมาณ”

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมสังเกตการณ์ ยืนยันตรงกันว่าเป็นสถานการณ์ที่ต้องดำเนินมาตรการอย่างเร่งด่วน รัฐบาลจึงเตรียมนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ เพื่อให้มาตรการต่าง ๆ เดินหน้าได้ทันที

เร่งจัดหาคน–รถ–เครื่องจักร เก็บขยะออกจากเมือง

นายอนุทินกล่าวว่า งานที่ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในตอนนี้ คือการเก็บขยะมูลฝอยและสิ่งของที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เพราะปริมาณมหาศาล หากถอดออกช้าอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา จึงสั่งการให้กองทัพ หน่วยราชการ และภาคเอกชนระดมยานพาหนะและเครื่องจักรลงพื้นที่ทันที

พร้อมอนุญาตให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จัดหาผู้รับจ้างเก็บขยะภายนอกพื้นที่ได้โดยไม่ต้องรอขั้นตอนปกติ เพื่อให้การเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากเมืองเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด

เตรียมประชุม ครม.เศรษฐกิจ – นายกฯ รับ 9,000 บาท “ไม่พอแน่นอน”

นายกฯ ยอมรับตรงไปตรงมาว่า เงินเยียวยา 9,000 บาทที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้า “ไม่เพียงพอแน่นอน” แม้แต่ 90,000 บาทก็ยังไม่ครอบคลุมความเสียหายจริง แต่รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมายก่อน โดยระบุว่าทุกครัวเรือนจะได้รับเงินเยียวยาตามขั้นตอน

สำหรับงบซ่อมบ้านเรือนตามกฎหมายปภ. กำหนดเพดานไว้ที่ 49,000 บาท ซึ่งต้องรอการสำรวจตีมูลค่าเป็นรายกรณี ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะเร่งเปิดสินเชื่อฟื้นฟูครัวเรือนละ 100,000 บาทเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง

การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จะเป็นเวทีในการวางกรอบงบประมาณทั้งหมด และพิจารณามาตรการที่สามารถอนุมัติได้ทันทีภายในวันที่ 2 ธันวาคมนี้

นายกฯ ชี้ “หนักยิ่งกว่าสึนามิ” พร้อมย้ำช่วยเหลือเต็มที่

นายอนุทินกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า สภาพความเสียหายในเมืองหาดใหญ่ครั้งนี้ “หนักกว่าสึนามิ” ทำให้รัฐบาลต้องทุ่มกำลังทุกด้านเพื่อฟื้นฟูให้เร็วที่สุด ส่วนเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ล้านบาท เป็นไปตามระเบียบปัจจุบัน ไม่ได้มากกว่าหลักเกณฑ์ในอดีต เพราะเคยมีรายการเยียวยาสูงสุดถึง 7 ล้านบาทด้วยซ้ำ

ปัดดราม่าแชทไลน์ – “ผมมาทำงาน เพื่อช่วยประชาชน”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” เปิดเผยแชตไลน์ที่อ้างว่า นายกรัฐมนตรีหัวเราะหรือมองเรื่องผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องตลก นายอนุทินส่ายหน้าและตอบเพียงสั้น ๆ ว่า

“ผมมาทำงานครับ มาช่วยประชาชน ไม่มีดราม่าอะไรทั้งนั้น”

พร้อมเน้นว่าข้อมูลเรื่องผู้เสียชีวิตต้องเชื่อจากแพทย์เท่านั้น ซึ่งได้มีการยืนยันจำนวนที่ถูกต้องแล้ว ส่วนตัวไม่ขอตอบโต้ประเด็นการเมือง

ไม่ฝากถึงบิ๊กโจ๊ก – ย้ำถูกโจมตีเป็นเรื่องปกติของการเมือง

เมื่อถูกถามว่ามีอะไรอยากฝากถึงบิ๊กโจ๊กหรือไม่ นายอนุทินส่ายหน้า และระบุว่า การทำงานการเมืองย่อมมีคนวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติ ก่อนตอกกลับผู้สื่อข่าวว่า

“แล้วมาถามอะไรกับผมล่ะ… นี่คือคนทำงาน ทำงานกันหมด”

สะท้อนจุดยืนว่าขณะนี้รัฐบาลต้องการมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด มากกว่าการตอบโต้กระแสดราม่าในโลกออนไลน์หรือเวทีการเมือง


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

ฝุ่น PM 2.5 มาแล้ว พุ่งเกินมาตรฐานหลายจว. กทม.ติดสีแดงหลายเขต

รัฐเดินหน้า 7 มาตรการ ช่วยนายจ้าง-ลูกจ้าง พื้นที่น้ำท่วมภาคใต้