พรรคประชาชน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ แถลงขอโทษประชาชนหลังความพยายามผลักดันกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่เป็นผล ภายหลังการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม และการประกาศยุบสภามีผลเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 โดยยืนยันว่าพรรคยังเดินหน้าต่อ เตรียมส่งผู้สมัครครบทุกเขตทั่วประเทศในการเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมย้ำว่าการผลักดันรัฐธรรมนูญใหม่เป็นภารกิจสำคัญเพื่อสร้างกติกาการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยและสอดคล้องกับเจตจำนงของประชาชน

พรรคประชาชนขอโทษหลังร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านรัฐสภา

นายณัฐพงษ์ ในนามหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2566 พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งและร่วมลงนามเอ็มโอยูกับพรรคเพื่อไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ไม่สามารถผลักดันให้เกิดรัฐบาลได้จากเสียงคัดค้านของวุฒิสภา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเอ็มโอยูในช่วงสำคัญทางการเมือง

ในรอบสองปีที่ผ่านมา ประเทศต้องเผชิญการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีถึงสองครั้งผ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกลก็ถูกรวบรวมกระบวนการทางกฎหมายจนยุบพรรค ก่อนก่อตั้งใหม่เป็นพรรคประชาชน ซึ่งผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สะท้อนว่าปัญหาเชิงโครงสร้างยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยไทย

พรรคประชาชนระบุว่า ความไม่สำเร็จในการผลักดันร่างรัฐธรรมนูญนี้ ไม่ได้เกิดจากความพยายามที่ขาดหาย แต่เกิดจากข้อจำกัดเชิงการเมืองทั้งในรัฐสภาและสถานการณ์เร่งด่วนจากการยุบสภาที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่สามารถเดินหน้ากระบวนการได้จนเสร็จสมบูรณ์

ความหวังใหม่กับประชามติและกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ

หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่า แม้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไม่สามารถเริ่มต้นได้ แต่ที่ประชุมรัฐสภายังมีมติให้จัดทำประชามติ “คำถามที่หนึ่ง” ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญตามกฎหมายประชามติ และขณะนี้เอกสารได้ส่งถึงคณะรัฐมนตรีรักษาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพรรคหวังว่ารัฐบาลรักษาการจะเดินหน้ากระบวนการนี้ควบคู่กับการจัดการเลือกตั้งครั้งถัดไป

เขาระบุว่า หากประชามติได้รับการอนุมัติ ก็จะเป็นการเปิดช่องให้การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เดินหน้าต่อได้ แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงการเลือกตั้งก็ตาม ถือเป็นความคืบหน้าเชิงสถาบันที่ยังสามารถต่อยอดได้ ไม่ว่าบริบททางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ส่งผู้สมัครครบทุกเขต มุ่งสร้างพรรคให้เติบโตและเข้มแข็ง

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล และ นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาชนเข้าร่วมแถลงข่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคมีความพร้อมเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยจะส่งผู้สมัครครบทุกเขตทั่วประเทศ เพื่อทำให้เสียงของประชาชนถูกสะท้อนในสภาอย่างเข้มแข็งมากขึ้น

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคประชาชนไม่ยึดติดกับจำนวนเก้าอี้หรือการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เข้ามาเพื่อนำการเมืองไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะการผลักดันระบบการเมืองให้มีความเป็นประชาธิปไตย โปร่งใส และตอบสนองต่อเจตจำนงของประชาชน

เขาย้ำว่าตราบใดที่เสียงประชาชนยังไม่เข้มแข็งพอ พรรคก็ยังไม่สามารถเอาชนะกติกาการเมืองในปัจจุบันได้ ซึ่งทำให้ภารกิจครั้งหน้าของพรรคคือการทำให้ประชาชน “พิงหลังพรรคได้มากที่สุด” ผ่านชุดนโยบายใหม่ ทีมบริหารใหม่ และการขยายฐานผู้สนับสนุนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ