นายกฯตรวจการบริหารจัดการน้ำ กำชับเรื่องแจ้งเตือนประชาชน ยืนยันคน กทม.ไม่ต้องห่วง น้ำไม่ท่วมแน่ เหตุปีนี้น้ำน้อยกว่า 54 ฝาก รมว.เกษตรฯ ดูเรื่องเยียวยา-ศึกษาการสร้างเขื่อน แก้ไขปัญหาน้ำท่วม
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจราชการการบริหารจัดการน้ำ ที่กรมชลประทานปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุริยพล นุชอนงค์ รักษาการอธิบดีกรมชลประทาน และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้รับฟังรายงานสถานการณ์น้ำจากอธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งพบว่า แม่น้ำปิง วัง ยม น่าน เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เพราะได้ระบายน้ำผ่านไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่จะลดการปล่อยน้ำในช่วงวันที่ 19-21 ตุลาคม 2567 เนื่องจากจะมีน้ำทะเลหนุน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ
ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวรายงานว่า กทม.มีความกังวลด้วยกัน 3 เรื่อง คือ น้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน แต่เขื่อนเจ้าพระยายังสามารถรับน้ำได้อยู่ โดยในส่วนจุดฟันหลอ จุดอ่อนน้ำท่วม ได้นำกระสอบทรายมาวางกั้นแล้ว 64 จุด จาก 120 จุด รวมถึงขุดลอกท่อระบายน้ำและคลอง เพื่อเปิดทางไหลของน้ำ
ส่วนสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุด นายชัชชาติกล่าวว่า คือเรื่องของปริมาณน้ำฝน ที่อาจเป็นปัญหาได้ เพราะในช่วงเดือน ต.ค. น้ำจะเพิ่มสูงขึ้น ฉะนั้นจะประมาทไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมรับมือ แต่สำหรับคลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ และคลองประเวศบุรีรมย์ ที่เป็นหัวใจหลักของ กทม. ยืนยันว่า ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดเวลาอยู่แล้ว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้สอบถามกรมชลประทานกลับ ว่าเวลาปล่อยน้ำได้มีการแจ้งเตือนประชาชนหรือไม่ เพราะหากปล่อยน้ำจะส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงขอกำชับให้แจ้งเตือนล่วงหน้าด้วย
พร้อมกล่าวเสริมว่า ในปี’54 มีพายุ 5 ลูก แต่ปีนี้มีพายุแค่ลูกเดียว และยังเหลือที่เก็บน้ำกว่า 6,000 ลบ.ม. ฉะนั้นสำหรับคน กทม.ที่กำลังกลุ้มใจว่าจะน้ำท่วม ขอยืนยันว่า ไม่น่าเป็นห่วง เพราะน้ำไม่มากเท่าปี’54 แน่นอน อย่างไรก็ตาม ขอฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยดูชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งและตรงท้ายเขื่อนด้วย ว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ด้านนางนฤมลจึงได้ตอบกลับว่า ขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนชาวบ้านให้ยกของขึ้นที่สูงแล้ว
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันดูแลเรื่องน้ำ ซึ่งเรื่องนี้ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งหมดและช่วยกัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขอให้มีการศึกษาเรื่องการสร้างเขื่อน และคอยอัพเดตข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เพื่อประโยชน์ในระยะยาว รวมถึงให้ดูเรื่องการเยียวยาพี่น้องประชาชนด้วย เนื่องจากงบประมาณการเยียวยา เรามีงบฯเพิ่มทุกปีอยู่แล้ว จึงอยากจะให้ลองไปศึกษาการสร้างเขื่อนดู
ขณะที่เรื่องของขยะที่แน่นหนา นายกรัฐมนตรีกำชับว่า ต้องจัดการให้เร็ว โดยเฉพาะผักตบชวา เพราะหากดำเนินการไม่เร็วจะเกิดปัญหาในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าภายหลังตรวจราชการการบริหารจัดการน้ำเสร็จสิ้น เวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อรับฟังรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้ ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ก่อนจะออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 (3rd Asia Cooperation Dialogue : ACD) ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.แพทองธาร นายชัชชาติ และนางนฤมล ได้สวมชุดดำ เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี
ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ
