แพทองธารชี้ศาลสั่งจำคุก “ชาญ” คดีทุจริตถุงยังชีพ เป็นไปตามกฎหมาย บอกเขาโดนก็ว่าตามนั้น “สมคิด” มองต้องรับผิดชอบตัวเอง เชื่อไม่กระทบภาพลักษณ์เพื่อไทย หลังเจอ 2 คดีติด
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาสั่งจำคุกนายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี คดีทุจริตการจัดซื้อถุงยังชีพ จากนี้จะเป็นบรรทัดฐานหรือไม่ ว่าต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และว่าไปตามนั้น ถ้าเขาโดนก็ต้องว่าไปตามนั้น
ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าว รวมถึงคดีตากใบที่จะหมดอายุความ 25 ต.ค.นี้ จะกระทบความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่าคดีนายชาญเป็นเรื่องของตัวบุคคล และเขาก็คิดว่าคงไม่มีปัญหา “เรื่องนี้ลุงชาญต้องรับผิดชอบตัวเองในการแสดงคุณสมบัติ”
ส่วนคดีตากใบก็เหมือนกัน มันเป็นคดีกว่า 20 ปี แต่ถ้าเราพูดถึงเรื่องนี้ตนอุตส่าห์ลืมไปแล้ว สื่อก็ไปตาม แล้วที่ผ่านมาก็มีการเยียวยาตามขั้นตอนต่าง ๆ ครบแล้ว ส่วนกระบวนการยุติธรรมจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง มันมากระทบกับพรรคเพื่อไทย เพราะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี มาเป็น สส.ของพรรค แต่ท่านได้แสดงสปิริตลาออก ส่วนบางคนบอกว่าทำไมไม่นำตัว พล.อ.พิศาลมามอบตัว พรรคเพื่อไทยก็ดำเนินการได้เท่านี้ ส่วนอื่นก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องว่ากันไป พรรคเพื่อไทยคนมันเยอะก็เลยมีหลายเรื่องให้เราได้รับรู้
เมื่อถามย้ำว่าช่วงนี้พรรคเพื่อไทยงานเข้าถี่ จะมีการปรับภาพลักษณ์อย่างไร นายสมคิดกล่าวว่า ตนว่าภาพลักษณ์มันอยู่ที่จังหวะและสถานการณ์พรรค
อื่น ๆ เขาก็มี แต่จังหวะนี้เขายังไม่มี ซึ่งมันมีทุกจังหวะจะโคนของทุกพรรคการเมือง เพราะเป็นศูนย์รวมของคนจำนวนมาก จะให้ทุกอย่างเปอร์เฟ็กต์กางมุ้งไม่ให้ยุงไต่ ไม่ให้ไรตอมคงจะยาก ฉะนั้น อยู่ที่ตัวบุคคล
เมื่อถามย้ำว่า 2 เรื่องเกิดขึ้นช่วงสัปดาห์นี้จะกระทบกับความเชื่อมั่นของพรรคหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ตนก็ยังไม่รู้ว่าข่าวของลุงชาญจะมาเจอตอนนี้ ซึ่งมันอยู่ที่จังหวะ และความเชื่อมั่นของพรรคอยู่ที่ผลงาน ถ้าผลงานออกมาดี ความเชื่อมั่นมันก็จะมา ต่อให้ภาพลักษณ์ดีการทำงานไม่ดีมันก็ไม่ดี เพราะเราเป็นรัฐบาล และไม่เชื่อว่าเป็นแรงเขย่าทางการเมือง เพราะเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราคิดพรุ่งนี้ก็เช้า เย็นนี้ไปนอนก่อน และยังไม่มีใครปั่นกระแส เป็นเพียงข่าวปกติไม่มีอะไร เดี๋ยวพอคดีบอสจบก็มีเรื่องอื่น

ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ