“ภูมิธรรม” ย้ำ น้ำท่วมภาคใต้เตรียมการไว้พร้อม เชื่อ เสียหายน้อยกว่าที่ควร รับ ภัยธรรมชาติคาดเดายาก ยัน มีงบพร้อมช่วยเหลือ มอง 3 เดือนน้อยไปประเมินผลงานรัฐบาล แนะรอดูผลงานดีๆ ในปี 68
วันที่ 16 ธันวาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ผอ.ศปช.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงสถานการณ์น้ำท่วมหนักในภาคใต้ ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายได้เตรียมพร้อมแล้ว หลังจากประกาศเตือนสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 16-22 ธันวาคมนี้ ว่าเป็นช่วงฝนตกหนัก โดยก่อนหน้านี้รอบแรกน้ำลดลงและเตรียมถอนกำลัง แต่เมื่อทราบถึงฝนระลอกสอง จึงสั่งตรึงกำลังในพื้นที่ไว้
ทั้งนี้ ได้สั่งทหารช่างให้ไปอยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ระนอง ไปตรวจสอบพื้นที่บ้างว่าต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้างโดยดูตัวอย่างจากภาคเหนือมาปรับใช้ ส่วนทหารพัฒนา ยังดำเนินการอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่าไม่ต้องกังวล เพราะเครื่องมือหนักและทหารจากภาคเหนือมาอยู่ในพื้นที่ภาคใต้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ดูแลระมัดระวังตั้งแต่ต้น รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีเตรียมการไว้ก่อนแล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า น้ำมาแรงเพราะธรรมชาติเปลี่ยนแปลง ถือเป็นภัยคุกคามใหม่ที่ต้องนำมาพิจารณาเวลาพูดถึงภัยคุกคาม ไม่ใช่แค่ภายนอกประเทศหรือยาเสพติด แต่ต้องมองทุกมิติ ซึ่งน้ำท่วมภาคใต้เป็นปัญหาที่เตรียมการไว้แล้ว เชื่อว่าความเสียหายอาจน้อยกว่าที่ควรจะเป็น พร้อมกันนี้ ยอมรับว่าภัยธรรมชาติแก้ปัญหายากเพราะโลกเปลี่ยน จึงต้องช่วยกันแก้ปัญหา สำหรับงบประมาณที่จะนำไปใช้เยียวยาได้เตรียมไว้แล้ว รวมถึงมีงบกลางสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
ส่วนกรณีสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “3 เดือน รัฐบาลแพทองธาร” พบว่า ร้อยละ 54.99 ประชาชนไม่เชื่อมั่นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล นายภูมิธรรม มองว่า ถามเฉพาะบางข้อไม่ได้ แต่ต้องดูผลโพลสวนดุสิตทั้งระบบ และจริงๆ หากดูทุกข้อเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ การที่ยังบอกว่าไม่เชื่อมั่นคือไม่มั่นใจ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเพิ่งทำงาน 3 เดือน ผลงานทางด้านเศรษฐกิจเรื่องเงิน 10,000 บาท ที่ประชาชนพอใจมาก และอีกหลายเรื่องที่เชื่อมั่น
ดังนั้น การที่ยังไม่เชื่อมั่นและผลออกมามากกว่า 50% ที่หมิ่นเหม่มีแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าดูทั้งระบบความไม่เชื่อมั่นเกิดขึ้นจากสภาพการทำงานที่ยังมีเวลาน้อยไป บางที 3 เดือน ยังไม่ทันทำอะไรที่เป็นผลงานออกมา ทำได้เพียงเริ่มต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำต่อไป ตนคิดว่าเวลาน้อยไปที่จะถามคำถามนี้ แต่ก็เป็นการถามเพื่อเป็นแนวให้รู้ว่า ประชาชนยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง เขาก็จะรอดู แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธว่ารัฐบาลนี้ไม่มีความสามารถ ซึ่งหากดูโดยรวมไม่มีปัญหาอะไร ผลออกมาเป็นบวกทั้งหมด จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจ อย่าไปหยิบเฉพาะบางเรื่องบางส่วนมาถาม เพราะจะมองไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าปี 2568 จะต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักคู่กับปัญหายาเสพติดและระบบน้ำ เพราะระบบน้ำก็เกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ หากเราทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่าปัญหาความหมักหมมของระบบเศรษฐกิจไทยมีมายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว ขณะนี้เรากำลังดึงมันขึ้นมา ซึ่งรัฐบาลทำแบบลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส จะเห็นอย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เราอยากทำตั้งแต่แรก มันก็ยังไม่ทำเพราะขาดความเข้าใจกัน แต่รัฐบาลนี้ใช้ความร่วมมือและการรับฟังจากทุกฝ่ายในการแก้ปัญหา แม้จะช้าไปหน่อยแต่เราก็รีบทำ จะเห็นว่าดิจิทัลวอลเล็ตกำลังจะหมด และมีระลอกใหม่ที่เรากำลังจะดำเนินการอีกหลายเรื่อง
ทั้งนี้ เมื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจเสร็จ เราจะแก้ปัญหาระบบน้ำทั้งระบบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรมากขึ้น ควบคู่กับการหาตลาดให้พี่น้องเกษตรกรขายผลิตผลได้มากขึ้น ยาเสพติดก็เป็นอีกปัญหาที่สำคัญ การแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งก็เป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้น รัฐบาลกำลังทำทุกอย่างให้เดินหน้าไป ปีหน้าเป็นปีที่เราต้องทำงานหนัก ตอนนี้เราทำงานมา 3 เดือน ถือเป็นการวางรากฐาน มองอย่างไรก็คงยังไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมได้ชัดเจนเพียงพอ
ในตอนท้าย นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า ปีหน้าขอให้ประชาชนรอดูผลงาน ซึ่งจะมีผลงานดีๆ ออกมาอีกมาก เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีในการเริ่มต้นสร้างโอกาสตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้.

ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ