“ภูมิธรรม” ชี้โทษจำคุกที่ 4 ลูกเรือประมงไทย ได้รับเป็นโทษต่ำสุดแล้ว มั่นใจจะได้รับการปล่อยตัว ในวันชาติหม่อง 4 ม.ค.ปีหน้า ส่วนเรื่องรุกล้ำน่านน้ำหรือไม่ให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง “รังสิมันต์-วิโรจน์” สับแหลก รัฐบาลอ่อนแอเกินไป เตือนการขออภัยโทษเท่ากับยอมรับรุกน่านน้ำจริงและจะมีผลต่อการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนในอนาคต “ป้าบ๊วย” เมียโกสาเจ้าของเรือประมง รอลุ้นผัวจะได้กลับบ้านวันไหน ปิดปากเงียบ ไม่ขอให้ข่าวอีก หวั่นทางการเมียนมาไม่พอใจ

ลูกเมียรอลุ้น 4 ตังเกไทยจะได้กลับสู่อ้อมกอด ครอบครัวเมื่อใด กรณีทหารเรือเมียนมาไล่ยิงเรือประมงไทย และจับเรือประมงไทย 1 ลำ พร้อมไต๋เรือ และลูกเรือ รวม 31 คน ในจำนวนนี้มีคนไทย 4 คน เหตุเกิดคืนวันที่ 30 พ.ย. ต่อมาวันที่ 16 ธ.ค. ศาลจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ตัดสินจำคุกเจ้าของเรือประมง 5 ปี ลูกเรือไทยคนละ 3 ปี ในความผิดข้อหารุกล้ำ น่านน้ำทำประมง และลักลอบเข้าประเทศ ขณะที่รัฐบาลอ้างว่าได้เจรจากับรัฐบาลทหารเมียนมาแล้ว การดำเนินคดีดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย เมียนมา และลูกเรือคนไทยจะได้รับอิสรภาพหลังปีใหม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 17 ธ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือ 4 ชาวประมงไทยที่ถูกจับกุมในเมียนมาว่า ขณะนี้ ถูกควบคุมตัว และได้ดำเนินการโดยท้องถิ่นเมียนมาที่เกาะสอง โทษที่ได้รับเป็นโทษที่ต่ำสุด ต้องดำเนินการ ตามกระบวนการยุติธรรมของเมียนมาให้ครบถ้วน จากการประสานงานเบื้องต้นทราบว่าวันที่ 4 ม.ค.68 เป็นวันชาติของเมียนมา ลูกเรือทั้ง 4 คนจะได้รับการ ปล่อยตัว กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานมา ตั้งแต่ต้น และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมา ได้รายงานข้อมูลให้รับทราบอยู่แล้ว เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศได้พูดคุยกันถึงข้อสรุปเรื่องการรุกล้ำหรือไม่ และจำเป็นต้องหาคนไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอให้ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า มีข้อท้วงติงว่าทางการไทยควรจะส่งคนไปช่วยแก้ข้อกล่าวหา นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนไทยอยู่ในมือของเมียนมา และเขาจับเราด้วยข้ออ้างนี้ เราต้องการเอา คนไทยออกมาก่อน ถ้าพูดอะไรมากหรือเยอะไปกว่านี้ อาจมีผลต่อเรื่องคนไทยที่จะกลับมา หากกลับมา เรียบร้อยแล้ว ความชัดเจนค่อยว่ากันอีกครั้ง คิดว่า สิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด ถ้ายิ่งตอบ บานปลายไปจะกระเทือนไปอีกหลายเรื่อง ไม่อยากให้ ประเด็นนี้เป็นประเด็นทางการเมืองไทยภายในประเทศ ขอห่วงชีวิตคนไทยก่อน เมื่อถามว่า การปล่อยตัวจะเป็น ในรูปแบบอภัยโทษหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็แล้วแต่กระบวนการ เพราะไม่อยากพูดถึงในรายละเอียดที่ได้พูดคุยกัน แต่ขอให้คนไทยออกมาก่อน

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีศาลเมียนมาสั่งจำคุก 4 ลูกเรือไทยว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า ครอบครัวที่รออยู่ คงตั้งคำถามว่า รัฐบาลทำอะไรกับเรื่องนี้ สิ่งที่อยากได้ความชัดเจนคือ ลูกเรือไทยจะได้กลับประเทศไทยเมื่อใด ที่บอกว่าหลังปีใหม่คือเมื่อใด และไทยมีท่าที อย่างไรต่อกองทัพเรือเมียนมาที่ใช้ความรุนแรงมากเกินความเหมาะสมจำเป็น สิ่งที่คนไทยอยากเห็น ไม่ได้หมายความว่าต้องส่งกองทัพไปยิงคืน แต่มีวิธี หลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่าไทยไม่พอใจ เช่น การประท้วง แต่เราไม่ได้เห็นจากรัฐบาล วันนี้รัฐบาลส่ง สัญญาณชัดเจนมากๆว่า รัฐบาลนี้อ่อนแอ ไม่สามารถสร้างความรู้สึกให้ชาวไทยรับรู้ว่าจะปลอดภัย น่านน้ำไม่มีหลักหมุดชัดเจน เป็นพื้นที่เจรจาไม่ลงตัว โอกาสเข้าไปอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนมันมี รัฐบาลต้องทำให้เกิด ความรู้สึกปลอดภัยต่อประชาชน

“ตกลงเรื่องคนไทย 4 คน ทำได้แค่นี้ใช่หรือไม่ เรื่องการต่อสู้คดีเป็นไปอย่างเต็มที่หรือไม่ ถามหน่วยงานราชการ กระทรวงต่างประเทศ ก็ไม่ได้พูดถึง การให้ความช่วยเหลือด้านทนายความ และทางคดี สะท้อนว่าไม่มีความชัดเจนอะไรเรื่องนี้เลย เราใช้ งบประมาณหลายส่วนไปกับเรื่องความมั่นคง วันนี้ประชาชนกำลังทวงถามว่าความมั่นคงของเขาที่ต้องจ่ายเป็นเงินภาษี จะตอบแทนให้เขารูปแบบไหนที่ทำ ให้รู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรม” นายรังสิมันต์กล่าว

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงเรื่องเดียวกันนี้ว่า ล่าสุดทราบว่า นายกฯเตรียมดำเนินการขออภัยโทษให้กับ ลูกเรือประมงทั้ง 4 คน จากเมียนมา กระบวนการดังกล่าวนี้ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง หากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน หากเนื้อหาในหนังสือขออภัยโทษมีประโยคใดประโยคหนึ่งที่เข้าข่ายยอมรับว่าเรือประมงไทยได้รุกล้ำน่านน้ำของเมียนมา จะทำให้ในอนาคตเมียนมาจะใช้การ ขออภัยโทษในครั้งนี้ มากล่าวอ้างได้ว่ารัฐบาลไทย ยอมรับว่าพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนนั้นเป็นน่านน้ำของเมียนมา และจะส่งผลกระทบอย่างมากในเรื่องเขตแดน การทำประมง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และใต้ทะเลของไทยในอนาคต การประชุม กมธ.ทหารสัปดาห์นี้ ตนจะเร่งทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ ให้ทราบถึงข้อห่วงใยนี้

วันเดียวกัน ที่แพปลา ส.ธนาพร บ้านน้ำเค็ม หมู่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ลูกเรือประมง บางคนที่เหลืออยู่ที่แพปลาดังกล่าว รอการกลับมาของ นายจ้างคือ นายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี หรือโกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือ ชาวไทยและลูกเรือเมียนมา ที่ถูกจับไปและถูกศาล จังหวัดเกาะสองตัดสินจำคุก นายยาว ลูกเรือชาวเมียนมา บอกว่า เป็นห่วงสุขภาพของโกสา เจ้าของเรือ เพราะทราบว่าป่วย ต้องกินยาอยู่ประจำ และอยากให้กลับมา เร็วๆ จะได้ออกเรือไปจับปลากันอีกครั้ง

ขณะที่นางปริญกมร ธัญชร อายุ 63 ปี หรือ ป้าบ๊วย ภรรยาของโกสา เจ้าของเรือ ยังเก็บตัวอยู่ ในบ้านเงียบๆ หลังเมื่อวานนี้ได้ข้ามฟากจาก จ.ระนอง ไปเยี่ยมสามีและร่วมฟังคำพิพากษาที่เกาะสอง ฝั่งเมียนมา วันนี้ป้าบ๊วยกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพียงสั้นๆว่า จากนี้ไปไม่ขอให้ข่าวอีกแล้ว เพราะจะทำให้ทางเจ้าหน้าที่เมียนมาไม่พอใจ จากนี้จะรอ คำสั่งจากทางเมียนมาอีกครั้งว่าจะปล่อยตัวสามีและลูกเรือคนไทยวันไหน ส่วนการช่วยเหลือของทางรัฐบาลไทยไม่ได้คาดหวังอะไรอีกแล้ว และไม่ขอพูด อะไรให้มากความอีก

ข้อมูล/ภาพ : ไทยรัฐ