สส. โหวต 326 เสียง ไม่เห็นชอบประชามติ 2 ชั้น รอถกอีก 180 วัน

สส. ไม่เห็นชอบประชามติใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น 326 เสียง ต่อ 61 เสียง เห็นต่าง สว. ส่งผลกฎหมายถูกยับยั้ง 180 วัน ก่อนนำมาพิจารณาใหม่

วันนี้ 18 ธ.ค. 2567 การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีวาระที่สำคัญในการพิจารณา คือ การลงมติต่อร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันได้พิจารณาแล้วเสร็จ และมีมติยืนยันในการแก้ไขเกณฑ์ผ่านประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น ที่วุฒิสภาแก้ไข ของสภาผู้แทนราษฎร

โดยที่ประชุมต่างมีการอภิปรายที่หลากหลายจากสมาชิก  ซึ่งในช่วงหนึ่งของการชี้แจงของ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะกรรมาธิการร่วมที่สนับสนุนเกณฑ์เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น

นายพิสิษฐ์ กล่าวตอนหนึ่ง ระบุว่า การแก้ไขของ สว.ในเรื่องเกณฑ์ผ่านประชามติไม่ใช่ตัวขัดขวางต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะ พ.ร.บ.ประชามติฉบับปัจจุบันสามารถบังคับใช้ได้ ดังนั้นหากจะดำเนินการออกเสียงประชามติแก้รัฐธรรมนูญสามารถทำได้ นอกจากนั้นแล้วในการพิจารณาของวุฒิสภา ฐานะสภากลั่นกรองได้ทำหน้าที่โดยไม่มีอคติ

ขณะที่ สส. ส่วนหนึ่งก็ได้แสดงความคิดเห็นต่อปัญหาในการทำประชามติแบบ 2 ชั้น ในเมื่อระบบการลงคะแนนเสียงของประชาชนคืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย การใช้เสียงข้างมากปกติโดยตรงจึงเป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้ระบบเสียงข้างมาก 2 ชั้น เพราะยุ่งยากและกีดกันเสียงที่แท้จริงของประชาชนออกไป

เมื่อพิจารณาสิทธิ์ไม่ถึงกึ่งหนึ่งตามด่านพิสดารของเสียงข้างมาก 2 ชั้นก็อาจทำให้สิทธิ์เสียงข้างมากของประชาชนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ตามกระบวนการประชาธิปไตยถูกบิดเบือนไปได้ เว้นเสียแต่ว่าผู้ที่สนับสนุนหลักเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น ปรารถนาอยู่ลึกๆในใจว่าให้การใช้สิทธิ์ออกเสียงของประชาชนเป็นไปได้ยากขึ้น

ด้าน สส.จากพรรคภูมิใจไทย ได้มีการอภิปรายยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ยึดมั่นในสิ่งที่พรรคได้เสนอ ว่า การทำประชามติ ต้องมีเกณฑ์แบบ 2 ชั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด แม้จะเห็นต่างกันแต่ไม่ได้ยึดติดหรือยึดมั่นโดยไม่มีหลักการและเหตุผล และเห็นว่า มีความจำเป็นว่าต้องใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น เหตุผลเพราะประชาชนตระหนักดีว่าทุกเรื่องที่ต้องทำประชามติสำคัญและมีผลกระทบทั้งประเทศ จึงต้องการความมั่นใจว่าผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์มีปริมาณเพียงพอที่น่าเชื่อถือจริง ๆ

ส่วนข้อกังวลว่าหลักเกณฑ์แบบ 2 ชั้นจะนำไปสู่การรณรงค์เพื่อไม่ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ หากมีการกระทำเช่นนั้น ประชามติจะเป็นโมฆะได้ และคิดว่าไม่น่าเกิดขึ้นได้ นอกจากการรณรงค์เช่นนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงเชื่อว่าวันนี้ความรู้สึกของประชาชนเกี่ยวกับการเมืองมีความตื่นรู้ ตระหนักรู้สิทธิของตัวเอง ไม่เชื่อว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิน้อยกว่าการทำประชามติรอบที่ผ่านมา ซึ่งออกมาใช้สิทธิ์สูง 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ และไม่เชื่อว่าคนไทยจะถูกใครบางครั้งหรือบางพรรคชักจูงให้สละอำนาจที่พึงมีของเขาได้อีกต่อไป เพราะอาจจะกำลังดูถูกประชาชนและวิวัฒนาการประชาธิปไตยมากไปหรือไม่

จากนั้น เมื่อที่ประชุมได้มีสมาชิกอภิปรายพอสมควรแล้วประธานในที่ประชุมจึงได้ให้สมาชิกลงมติ โดยผลปรากฎว่า มีเสียงไม่เห็นชิบ 326 เสียง ที่ไม่เห็นชอบกับมติของกรรมาธิการร่วม และมีเสียงเห็นชอบ 61 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง

โดยประธานในที่ประชุมได้มีการแจ้งต่อว่า เมื่อมติที่ประชุมไม่เห็นชอบกับกรรมาธิการร่วมกัน ต้องยับยั้งร่างพ.ร.บ. ไว้ตามรัฐธรรมนูญ โดยสภาฯ จะยกร่างพ.ร.บดังกล่าวขึ้นพิจารณาใหม่ได้เมื่อพ้น 180 วัน นับตั้งแต่ที่สภาฯไม่เห็นชอบ

ข้อมูล/ภาพ : พีพีทีวี

แผนกินรวบ “บูรพาบางปะกง-ทะเลชลบุรี” นายก อบจ.ค่ายเพื่อไทย

“หญิงหน่อย” ปัดตอบ 5 สส.เป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ไม่อึดอัดร่วมงาน “ลุงป้อม”