เปิดภาพ “ทักษิณ-ธรรมนัส” ควงคู่เยือนหลีเป๊ะ พร้อมขบวนเรือยอร์ช 6 ลำ ลือสะพัดนัดถก “นายกฯ มาเลย์” กรอบ consensus หรือ JCPP ระหว่าง BRN และรัฐบาลไทย
เมื่อวานนี้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าจับตาหลังปรากฏภาพ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางพร้อมขบวนเรือยอชต์ถึง 6 ลำ แวะเยือนเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
ซึ่งขบวนเรือยอชต์ได้เดินทางมาถึงชายฝั่งเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. โดยไม่มีผู้ใดทราบล่วงหน้า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป จนกระทั่งเช้าวันที่ 26 ธ.ค. เวลา 09.00-11.00 น. ทั้งสองได้ขึ้นฝั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมบูโลว คาซ่าแกรนด์วิว รีสอร์ท
โดยการมาเยือนครั้งนี้มีนายมุกตา บู่เอียด นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจเกาะหลีเป๊ะและเจ้าของโรงแรม พร้อมด้วยนายนิธิศ สิตะรุโณ ปลัดอำเภอประจำตำบลเกาะสาหร่าย และพ.ต.ต.สุจิต ปิริยะ สว.สภ.เกาะหลีเป๊ะ ร่วมให้การต้อนรับ ก่อนที่คณะจะเดินทางกลับภูเก็ตในเวลา 11.15 น.
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านายทักษิณมีกำหนดการพบปะกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เพื่อการเจรจาตามกรอบ consensus หรือ JCPP ระหว่าง BRN และรัฐบาลไทย โดยมีข่าวว่าก่อนที่นายทักษิณล่องเรือใกล้เกาะหลีเป๊ะนั้น ได้มีการนัดคุยกับนายอันวาร์ บนเรือยอชต์ กลางทะเลระหว่างแนวเขตประเทศไทยด้วย
ด้านนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pichit Chaimongkol ระบุว่า พูดเหมือนกัน เมื่อคืนมีการทานข้าวร่วมกันของคนหลายวงการ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เสียงสนทนาจากหลายโต๊ะพูดไปในทำนองเดียวกัน คือ ทักษิณ รอบนี้ใช้อำนาจรัฐมากกว่านายกรัฐมนตรี บรรยากาศการเมืองเหมือนกลับมาปี 2549 อีกครั้ง รัฐบาลคงอยู่ไม่ครบเทอม น่าจะไม่พ้นปีหน้า หัวข้อแต่ละโต๊ะก็ประมาณนี้
ขณะที่ นายไพศาล พืชมงคล นักกฏหมาย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ต้องโฟกัส ป.ป.ช คดีนักโทษเทวดาชั้น 14 กันเสียหน่อย ในเมื่อมีไอ้โม่ง เคยก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อล้มคดีแต่ไม่สำเร็จ มาวันนี้ก็มีอีโม่ง กำลังเคลื่อนไหวอย่างหนักเพื่อให้เจ้าของสำนวนเดิมถอนตัวและเพื่อล้มคดี
ดังนั้นเมื่อมี 2 คน เป็นเสียอย่างนี้ การพิจารณาของคณะกรรมการ ปปช. ชุดใหญ่ ในการชี้มูลความผิดคดีนักโทษเทวดาชั้น 14จึงน่าห่วงใยยิ่ง เพราะสองเสียงนี้ นอกจากตัวเองแล้วยังพยายามวิ่งเต้นคนอื่น ให้ร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อล้มคดีอยู่ และภาคประชาชนจะว่าฉันใด บางทีอาจต้องร้องต่อคณะกรรมการปปช. ขอให้ มีมติให้ไอ้โม่งและอีโม่งถอนตัว ก็ขาดความเป็นกลาง ขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง และละเมิดกฎหมาย โดยไม่ยำเกรง อาญาบ้านเมืองเลย

ข้อมูล/ภาพ : พีพีทีวี