“ซาบีดา” ร่วมพิธีเปิดงานรำลึก 20 ปี สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย 2547 ย้ำความเชื่อมั่นระบบการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทย
26 ธ.ค. 67 ณ โรงแรมเขาหลัก แมริออท บีช รีสอร์ท แอด์ สปา จังหวัดพังงา นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานรำลึก 20 ปี เหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย (The Commemoration of the 20th Anniversary of Indian Ocean Tsunami) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 27 ธ.ค. 67 ณ จังหวัดพังงา
โดยมีคณะทูตานุทูตต่างประเทศในประเทศไทย รองเลขาธิการอาเซียน ภาคเอกชน องค์กรภาคประชาสังคมและชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ผู้บริหาร ปภ. เจ้าหน้าที่ ปภ. และคณะ เข้าร่วมงานฯ
นางสาวซาบีดา เผยว่า วันที่ 26 ธันวาคม 2567 เป็นวันครบรอบ 20 ปี ของเหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดแผ่นดินไหวในทะเลขนาด 9.1 ที่นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้คลื่นสึนามิพัดถล่ม ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประเทศ ตลอดแนวชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230,000 คน สำหรับประเทศไทยได้เกิดผลกระทบในพื้นที่ 6 ชายฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมกว่า 8,000 คน สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน ระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ซึ่งนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการพัฒนาการจัดการสาธารณภัยเชิงรุกของประเทศที่มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมการป้องกันและลดผลกระทบจากสาธารณภัยขนาดใหญ่ที่มีความรุนแรง ซับซ้อน และยากต่อการคาดการณ์
จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ปี ประเทศไทยได้มีการพัฒนาระบบและกลไกการจัดการภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับกรอบการดำเนินงานระหว่างประเทศ อาทิ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) กรอบการดำเนินงานเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ พ.ศ. 2558 – 2573 รวมถึงนโยบายการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570)
นางสาวซาบีดา กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งในประเทศ และนอกประเทศจัดงานรำลึก 20 ปี เหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย (The Commemoration of the 20th Anniversary of Indian Ocean Tsunami) ขึ้น ระหว่างวันที่ 26 – 27 ธ.ค. 2567 ณ จังหวัดพังงา
อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และสร้างความตระหนักในการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศในการลดความเสี่ยงจากภัยสึนามิ
นอกจากนี้ ยังมีเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติของประเทศในอนาคต ส่งผลให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันและมีความปลอดภัยจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน
ด้านนางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า สำหรับการจัดงานรำลึก 20 ปี เหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ในวันแรก ได้มีตัวแทนจากต่างประเทศกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน จากนั้น ผู้ร่วมงานได้ร่วมพิธีรำลึกถึงผู้สูญเสียในโอกาสครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย
ส่วนกิจกรรมในช่วงบ่ายเป็นการเสวนาวิชาการ ประกอบด้วย 5 หัวข้อสำคัญ ได้แก่
- การสาธารณสุขและการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยกระทรวงสาธารณสุข และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
- ระบบการแจ้งเตือนภัย โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก
- งานวิจัยและนวัตกรรม โดยสำนักงานวิจัยแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
- การส่งเสริมประชากรทุกกลุ่มให้มีภูมิคุ้มกันจากภัยพิบัติ โดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
- การสร้างเมืองปลอดภัยอย่างยั่งยืน โดยสำนักงานเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ
ส่วนการจัดกิจกรรมในวันที่สอง (27 ธ.ค. 67) จัดขึ้นในบริเวณบ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เป็นกิจกรรมของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชนในพื้นที่ การวางดอกไม้และยืนไว้อาลัย เพื่อรำลึกถึงผู้สูญเสียจากเหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ณ สวนอนุสรณ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม
พร้อมเยี่ยมชม “เรื่องเล่าที่ชายฝา” จำนวน 10 จุด ณ ชุมชนบ้านน้ำเค็ม และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม เพื่อศึกษาและเรียนรู้เรื่องราวและการก้าวข้ามผ่านความสูญเสียเหตุการณ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อสร้างชุมชนที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม

ข้อมูล/ภาพ : พีพีทีวี