จุรินทร์ เตรียมพิจารณา 4 ประการ ถกแก้ไข รธน.14-15 ม.ค. ชี้พรรคร่วมมีสิทธิลงมติตามจุดยืน
เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประธานรัฐสภา จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 14 และ 15 มกราคมนี้ว่า เท่าที่ตรวจสอบล่าสุด มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะเข้าสู่การพิจารณารวม 17 ฉบับ ซึ่งเป็นร่างของพรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้งหมด ส่วนการลงมติต้องถือว่าเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.เป็นเสียงของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในช่วงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯก็ได้กำหนดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน แต่พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ระบุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนแล้ว ซึ่งวิปรัฐบาลก็คงจะต้องไปพิจารณากันว่าจะมีความเห็นไปในทางใด
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับความเห็นตนนั้น ก็จะพิจารณาเป็นรายฉบับ ซึ่งจะต้องดูหลายส่วนประกอบกัน เช่น ประการแรก เรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญว่าสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้เลยหรือไม่ หากเข้าข่ายต้องมีการทำประชามติก่อนตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ ก็จะต้องมีคำถามว่าสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้เลยหรือไม่ หากยังไม่มีมีการทำประชามติ ประการที่สอง ต้องดูว่ามีการแตะหมวด 1 หมวด 2 หรือไม่ หากแตะก็ไม่เห็นชอบ ประการที่สาม ต้องดูที่เนื้อหาว่า มีความเหมาะสมนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นหรือไม่ และประการที่สี่ แก้แล้วทำให้มาตรฐานเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและมาตรฐาน จริยธรรมหรือมาตรฐานทางการเมืองของประเทศลดต่ำลงหรือไม่ ถ้าต่ำลงก็ไม่ควรเอาด้วย เป็นต้น
ส่วนคำถามที่ว่าจะติดด่านวุฒิสภาหรือไม่นั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ส.ว.จะลงมติอย่างไรก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว สำหรับเสียงของ ส.ส.หรือพรรคการเมืองนั้นตนเห็นว่าควรจะเป็นสิทธิการพิจารณาของแต่ละพรรคการเมืองเพราะแต่ละพรรคอาจมีจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญที่มีความแตกต่างกัน
ส่วนที่ว่าจะมีนักร้องเกิดขึ้นหรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่อาจคาดเดาล่วงหน้าได้ แต่ รัฐธรรมนูญ มาตรา 256(9) ก็เปิดโอกาสให้ ส.ส.หรือ ส.ว. หรือทั้งส.ส. ส.ว. รวมกันจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 สามารถเข้าชื่อกันเสนอต่อประธานสภาที่ตนเป็นสมาชิกเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมวินิจฉัยความชอบด้วย รัฐธรรมนูญของร่างแก้ไขที่ผ่านรัฐสภาแล้วก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ ขณะที่ร่างของพรรคประชาชนแต่ละร่างนั้น ตนยังไม่ขอวิจารณ์แต่จะพิจารณาเป็นร่างๆ ในการตัดสินใจลงมติ

ข้อมูล/ภาพ : มติชน