รัฐบาลเดินหน้าโครงการ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ (Public Housing) ช่วยคนไทยให้มีที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยเริ่มทำงาน กลุ่มวัยทำงานระหว่างเจนเอ็กซ์และเจนวาย หรือกลุ่มคนอายุ 22-56 ปี ในเฟสแรกนำร่อง 4 ทำเลทองใกล้รถไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวยมากมาย
1. พื้นที่เขตบางซื่อ
โครงการฯ จะที่พักในย่านบางซื่อ ตั้งอยู่ในซอยวิภาวดี 11 ติดถนนกำแพงเพชร และใกล้กับสถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ห่างจากเซ็นทรัลลาดพร้าว 500 เมตร สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะสามารถเดินทางได้ง่าย ๆ เนื่องจากที่พักห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานี พหลโยธิน 500 เมตร และห่างจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กม. เป็นอาคารชุด จำนวน 1,232 ยูนิต มีขนาด 30 ตารางเมตร ราคา 1.76 ล้านบาท ส่วนห้องขนาด 40 ตร.ม. ราคา 2.36 ล้านบาท และขนาด 45 ตร.ม. ราคา 2.65 ล้านบาท และห้องขนาดใหญ่สุด 50 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 3 ล้านบาท
2. พื้นที่ย่านธนบุรี
เริ่มต้นกันที่ทำเลย่านธนบุรีนั้นอยู่ใกล้สถานีรถไฟธนบุรี เดินทางสะดวกเพราะห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีส้ม เพียง 800 เมตร มีเนื้อที่กว่า 23 ไร่ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าพัฒนาเป็นอาคารชุด ประมาณ 2,100 ห้อง
3. พื้นที่เชียงราก
ต่อมาย่านเชียงราก จ.ปทุมธานี ตั้้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 4.4 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพประมาณ 9 กิโลเมตร ทางโครงการเล็งว่าจะสร้างที่อยู่อาศัยเป็นอาคารชุด จำนวน 1,795 ห้อง ราคา 1.34 ล้านบาท
4. พื้นที่เชียงใหม่
สุดท้ายคือทำเลในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่พร้อมทั้งสาธารณูปโภคและเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ เดินทางสะดวกเพราะใกล้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ อีกทั้งใกล้กับถนนเมือง ถนนทุ่งโฮเต็ล รวมทั้งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยในจังหวัดมาก เช่น ที่พักห่างจากมหาวิทยาลัยพายัพ 2.6 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 7.5 กม. โครงการจะจัดสร้างอาคารชุด จำนวน 720 ยูนิต ราคา 1.5 ล้านบาท ด้วยเนื้อที่กว่า 7 ไร่

สำหรับคุณสมบัติผู้ซื้อต้องมี
1.คนไทย ที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน
2.ไม่ติดเครดิตบูโร
3.ยื่นหลักฐานสำคัญตามที่กำหนด ในการขอกู้เงินกับ ธอส
โครงการฯ เล็งผ่อนเริ่มต้นเพียง 4,000 บาท/เดือน ไม่มีเงินดาวน์ สามารถจองสิทธิ์ผ่านธนาคารธนาคารอาคารสงเคราะห์ พร้อมเปิดห้องตัวอย่างให้ชม 20 ม.ค. 68 นี้ ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
ขณะที่ระยะเวลาของโครงการ เริ่มตั้งแต่เปิดให้จองโครงการในวันที่ 20 ม.ค.68 ต่อมาในเดือน ก.พ. เริ่มก่อสร้างโครงการนำร่อง และในเดือน ธ.ค. เริ่มโอนโครงการนำร่อง 154 หน่วย หลังจากนั้นเดือน มิ.ย. 2569 เริ่มโอนโครงการนำร่อง 4,256 หน่วย และเดือน ธ.ค. 2569 เริ่มโอนโครงการ 56,000 หน่วย โดยภายในปี 2570 เริ่มโอนโครงการ 39,590 หน่วย