ร้อยละ 78.04 คือ ตัวเลขของผู้ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ.พัทลุง ที่มากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จากการเลือกตั้ง นายก อบจ.พัทลุง ครั้งที่ผ่านมา ทำให้วันนี้ชาวบ้านและกลุ่มผู้สนับสนุน ผู้สมัครนายก อบจ.และสมาชิก อบจ. จำนวนมาก เข้าร่วมเวทีเสวนา
ซึ่งในปีนี้มีผู้สมัครนายก อบจ. 5 คน โดย นายสาโรจน์ สามารถ จากทีมรักพัทลุง เน้นย้ำนโยบาย 9 ด้าน ที่อยากผลักดัน โดยเฉพาะนโยบายด้านการศึกษา การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อสร้างความโปร่งใสในการจัดการงบประมาณ
“หากประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้เต็มที่ เขาจะบอกได้ว่า เขาอยากได้อะไร ไม่ใช่นักการเมือง ไปจับมือกับนายทุน บอกว่า มีเงินเท่านั้นเท่านี้ กี่ล้าน ถ้าชนะแล้วให้คนนี้ตอบแทน เป็นการเรียกรับต่างตอบแทนของกลุ่มทุน” นายโปรดปราน โต๊ะราหนี ทีมพัทลุงรุ่งเรือง กล่าว
พร้อมเสนอให้คนพัทลุง เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงฝีมือ เพื่อทวงดุล พร้อมเสนอให้มีการจัดตั้งสภาประชาชนจากทุกหมู่บ้าน เพื่อเข้ามามีส่วนร่วม

ด้านนายประสิทธิชัย หนูนวล จากทีมคนสร้างเมือง ชี้ว่า พัทลุง มีพื้นที่กว่า 1.5 ล้านไร่ และมากกว่าร้อยละ 90 มีอาชีพเกษตรกรรม จึงเสนอทำนโยบายเมืองอุตสาหกรรมขนาดเล็ก แปรรูปอาหาร การดูแลสุขภาพ สำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงสร้างคณะทำงานยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม
“ในหลายปีที่ผ่านมา เราพัฒนากันอย่างไร ในแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีคนเก่งมากที่สุด พัฒนากันจนเรากลายเป็นจังหวัดที่ยากจนอันดับ 4 ของประเทศ ถ้าเราเลือกผู้บริหารแบบเดิม โครงสร้างเป็นแบบเดิม อีก 2 ปีเราอาจเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศก็ได้” นายประสิทธิชัย กล่าว
ตรงกับความเห็นของนายกู้ชาติ ชายเกตุ ผู้สมัครอิสระ ที่อยากทำนโยบายรถโดยสารชานเมือง โรงกำจัดขยะ และการส่งเสริมการร่วมทุนกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมขนาดเล็กต่าง ๆ ชุมชน และเรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้ ปลอดการซื้อเสียง
ส่วนนายผา ผอมขำ ตัวแทนจากทีมพลังพัทลุง ในฐานะแชมป์เก่า ขอโอกาสในการสานงานต่อจากที่ทำมาแล้ว
ทั้งนี้ อบจ.พัทลุงมีงบประมาณในการพัฒนาปีละกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเลือกตั้ง นายก อบจ.พัทลุง มีตระกูลธรรมเพชร ครองแชมป์มานาน แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกท้าชิงจากผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการหนุนจากตระกูลรัชกิจปราการ โดยมีนางนที และนายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รมว.แรงงาน ซึ่งถือเป็นขุมกำลังที่สำคัญสนับสนุน

ข้อมูล/ภาพ : ไทยพีบีเอส