“เผ่าภูมิ” ยัน พร้อมแล้วโอนเงิน 10,000 เฟส 2 ตรุษจีนนี้ บอกไทม์ไลน์ใกล้กัน ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ไตรมาส 2-3 ปีนี้ หลัง “ทักษิณ” แย้ม มี.ค.-เม.ย. ด้าน “วราวุธ” เผย ผู้สูงอายุที่มีสิทธิราว 4 ล้านกว่ารายชื่อ
วันที่ 21 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความพร้อมในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟสที่ 2 ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ว่า ขณะนี้โครงการมีความพร้อมอย่างมาก โดยจะมีการเปิดให้ตรวจสอบรายชื่อของผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินในวันที่ 22 มกราคมนี้ ส่วนวันที่ 27 มกราคม 2568 ประชาชนที่ได้รับสิทธิจะได้รับเงินเข้าบัญชีตามกำหนด
เมื่อถามถึงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ให้กับประชาชนที่ได้มีการลงทะเบียนแล้ว ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุบนเวทีปราศรัยจะแจกเงินภายในเดือนมีนาคม-เมษายน นายเผ่าภูมิ ระบุว่า จริงๆ ก็ตรงกัน ใกล้เคียงกับไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ เพราะอย่างที่บอกว่าอยากจะให้เงินลงไปในช่วงที่เหมาะสม ในช่วงที่เป็นโลว์ซีซันของการท่องเที่ยว ซึ่งปกติจะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 รัฐบาลวางแผนว่าจะทำงานเพื่อให้กระจายเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจในช่วงนั้นอยู่แล้ว

…
“กรอบในการทำงานเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเป็นการแจกเงินหมื่นเฟสที่ 3 ตอนนี้วางแผนไว้ว่าเป็นไตรมาสที่ 2-3 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องมีเม็ดเงินลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เป็นโลว์ซีซัน”
ขณะที่เรื่องของระบบและแอปพลิเคชันทางรัฐ มีความพร้อมหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า จะให้มีความพร้อมทันกับช่วงเวลาดังกล่าวตามที่รัฐบาลวางแผนไว้

ทางด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อมูลผู้สูงอายุที่เป็นผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาทในวันที่ 27 มกราคมนี้ ที่รายงานต่อกระทรวงการคลัง ว่า กระทรวง พม. เสนอกระทรวงการคลัง มีราว 4 ล้านกว่ารายชื่อ ซึ่งเป็นรายชื่อผู้ที่ลงทะเบียนกับแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งแต่ละครั้งที่รัฐบาลเสนอจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ในครั้งนี้ทางกระทรวงการคลังก็เป็นผู้กำหนดเงื่อนไขเช่นกัน โดยอาศัยฐานข้อมูลที่ทางกระทรวง พม. ให้ และกระทรวงการคลังจะนำไปดูว่ามีคนไหนผ่านเกณฑ์บ้าง
เมื่อถามต่อไปว่า 4 ล้านกว่ารายชื่อนี้สามารถเตรียมตัวรับเงินได้เลยใช่หรือไม่ นายวราวุธ ตอบว่า เตรียมตัวได้เลย แต่ทั้งนี้ตนขอฝากสำหรับผู้ที่รู้ตัวว่าอยู่ในข่ายจะได้รับเงิน 10,000 บาทนี้ ขอให้ใช้เงินให้คุ้มค่าและระวังมิจฉาชีพ เพราะเมื่อท่านได้รับเงินนี้ไปแล้ว มิจฉาชีพจะจ้องตาเป็นมัน ทั้งออนไลน์ หรือคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงกลุ่มคนต่างๆ ที่จะเข้ามาขอใช้เงิน แต่ประเด็นที่รัฐบาลมอบให้คือเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือเสริมอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในกลุ่มต่างๆ จึงขอฝากเป็นกำลังใจให้กับกลุ่มผู้ได้รับเงินว่าขอให้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า.
ข้อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ