สาวโอดเพื่อนรักกลายเป็น 18 มงกุฎ สร้างเรื่องโดนอายัด หลอกยืมเงิน ซ้ำผัวโดนด้วย

สาวโอดเพื่อนรักหักเลี่ยมโหดกลายเป็น 18 มงกุฎ หลอกยืมเงิน สร้างเรื่องถูกอายัดเงินหลายล้านบาท ขอยืมเงินไปจ่ายภาษีสรรพากร ปลดอายัด ซ้ำมารู้ตอนหลัง สามีก็โดนหลอกด้วย

วันที่ 31 มกราคม 2568 มีรายงานว่า นายกิตติศักดิ์ อายุ 44 ปี นางสาวนสณัฐิกา อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา ชาว อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังถูกหลอกยืมเงินจะให้ผลตอบแทน สูญเสียเงินจำนวนมากจากเพื่อนสนิท ที่มีวิธีการในการหลอกลวงทำเป็นกระบวนการสร้างความน่าเชื่อถือ ใช้หลักฐานทางธนาคาร และทางกรมสรรพากร

นางสาวนสณัฐิกา เปิดเผยว่า ตนเองทำงานเป็นพนักงานโรงงานและขายขนมเป็นอาชีพเสริม ก่อนที่จะเกิดเรื่องราวได้ไปเจอเพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยม คือ นางสาวสุธรรมมา ของตนเองและสามีที่เรียนมาด้วยกันไม่ได้เจอกันมาหลายปี จากนั้นมีการแลกเบอร์โทรแลกไลน์แลกเฟซบุ๊กกันเอาไว้

ต่อมาเพื่อนสนิทคนนี้ ได้ทักมาหาตนเองพูดคุย ชักชวนให้ตนเองร่วมเล่นแชร์หลายวงมาก แต่ตนเองปฏิเสธไป จนมีการมาขอความช่วยเหลือตนเองเนื่องจากบัญชีธนาคารที่มีเงินอยู่ในบัญชี 3 ล้านกว่าบาทถูกอายัด และอีกบัญชี มีเงินกว่า 26 ล้านถูกอายัด กรมสรรพากรอายัดเนื่องจากไม่ได้ชำระภาษี ขอยืมเงินไปจ่ายภาษี เพื่อปลดล็อกการถูกอายัดบัญชี พร้อมกับจะจ่ายค่าตอบแทนเงินที่ยืมให้

โดยมีการส่งแชทการพูดคุยกับทางผู้จัดการธนาคาร และเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จนหลงเชื่อ โอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมแล้วประมาณ 80,000 บาท ซึ่งเพื่อนสนิทคนนี้ยังส่งหลักฐานการโอนเงินผ่านแอปธนาคารให้กรมสรรพากรมายืนยันว่าได้ชำระภาษีไปแล้ว ให้รอการปลดอายัด พยายามติดตามทวงถามหลายครั้ง บ่ายเบี่ยงมาตลอดว่าระบบยังปลดอายัดไม่ได้ จนเริ่มสงสัยย้อนกลับไปดูข้อความการแชทต่าง ๆ ที่ส่งมา พบว่าเป็นสลิปการโอนเงินปลอม หน้าแอปธนาคารที่แสดงยอดเงินจำนวนหลายล้านบาท เป็นของปลอมตัดต่อมาทั้งหมด รวมไปถึงแชทที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เป็นแชทปลอมทั้งหมด จึงติดต่อกลับไปหาเพื่อน ไม่สามารถติดต่อได้

และเพิ่งจะทราบจากสามี พร้อมกับผู้สื่อข่าวว่าสามีถูกหลอกเงินไปด้วยเช่นเดียวกันไม่ยอมบอกตน ได้รวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ให้ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี และอยากที่จะได้เงินคืน เพราะเงินที่ถูกหลอกไปเป็นเงินที่ตนเองทำงานขายของเก็บเอาไว้ และไปยืมคนที่รู้จักมาด้วย ไม่คิดว่าเพื่อนที่เรารักจะมาทำกับเราแบบนี้

นายกิตติศักดิ์ อายุ 44 ปี กล่าวว่า เพื่อนคนนี้ไม่ได้เจอกันนานมาก พอมาเจอพบว่ามีการแต่งตัวดี ขับรถหรู ดูน่าเชื่อถือ ทักมาหาพูดคุยกับตนเรื่องต่าง ๆ และบอกว่าประกอบอาชีพทำธุรกิจสีเทา ปล่อยเงินกู้ และมีบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้ตนบอกใคร และรู้ว่าตนเองกำลังมีปัญหาเรื่องเงินต้องการใช้เงิน อยากจะช่วย จะให้กู้เงินหลักแสนบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ซึ่งถูกมาก แต่ต้องมีการวางเงินประกันหลักหมื่นบาทก่อน จึงหลงเชื่อ โอนเงินไปหลายครั้ง รวมแล้วเป็นเงินประมาณ 10,000 กว่าบาท พยายามติดตามทวงถามจึงรู้ว่าถูกหลอกทั้งตนเองและภรรยา

ซึ่งได้ทักไปพูดคุยกับเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกัน ในไลน์กลุ่มเพื่อนมัธยม มีคนถูกหลอก สูญเสียเงินไปแบบเดียวกัน สร้างเรื่องราวใกล้เคียงกัน บางคนกำลังจะหาเงินกำลังจะโอนเงินมารู้ก่อนจึงไม่สูญเสียเงิน จึงอยากออกมาเตือนภัยคนอื่นให้ระมัดระวังการสร้างละคร การหลอกลวง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี.

ข้อมูล / ภาพ : thairath

“สรวงศ์” ค้นหาอัญมณีที่ซ่อนอยู่ ฟื้นฟูท่องเที่ยวสระแก้วไม่ให้เป็นแค่เมืองทางผ่าน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยื่นฟ้อง “หนุ่ม กรรชัย-อี้ แทนคุณ” ข้อหาหมิ่นประมาท เผย รับไม่ได้คนด่าบุพการี