ความคืบหน้าคดีที่ สาว LGBTQ ก่อเหตุราดน้ำร้อนใส่คู่กรณีได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่เมื่อวานได้มีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มมาได้อีก 6 คน ขณะนี้มีผู้ต้องหารวม 8 คนนั้น

วันนี้( 11 ก.พ.)บรรยากาศที่ สภ. คลองหลวง คุมตัว นายรษิภา หรือ ภีม นายชคัทพล หรือ โอชิ , นายนพคุณ หรือ จั๊ก , นายดลลธี หรือ พอล , นางสาวอุ้มบุญ , นางสาวกันยาพัชร หรือ พิมเจล , นางสาววรัญญา หรือ แบม และนายภราดร หรือ ไอซ์ ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรีฝากขัง โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว โดยมีญาติและเพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาโดยแม่ของพรีม หนึ่งในผู้ต้องหาเปิดเผยว่า วันนี้นำข้าวเหนียวหมูมาฝากลูก ท่าทีของพรีมเครียดน้อยลงกว่าเมื่อวาน ซึ่งได้บอกไปตั้งแต่วันเสาร์ที่ถูกจับกุมแล้วว่า จะไม่ยื่นประกันตัว ให้เค้าทำใจรับสภาพไป ตามกระบวนการยุติธรรม ให้เป็นบทเรียนในชีวิต ส่วนที่ถูกทางมหาวิทยาลัยลัยไล่ออกนั้น คาดว่าน่าจะทราบแล้ว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตพฤติกรรมความรุนแรงของ นายรษิภา หรือ หรือ เจ๊พรีม อายุ 22 ปี จะป่วนทางจิตหรือไม่ แม่ระบุว่า ไม่ทราบ เพิ่งคุยกับเพื่อนเค้า ตั้งแต่คบเพื่อนกลุ่มใหม่ นิสัยลูกก็เปลี่ยนไป เพราะอยู่คนละที่ ลูกอยู่หอพัก แม่อยู่บ้าน เจอกันเดือนละครั้ง ของใช้หมดแม่ก็เอามาให้แล้วแม่ก็กลับ ก็ไม่เจอเพื่อนของลูก ซึ่งก็ยังแปลกใจว่า ทำไมพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากตอนเรียนมัธยมมาก

ตลอดเวลาที่เรียนหนังสืออยู่ ด้วยความเป็นห่วง พรีมใช้ชีวิตกับเพื่อนมหาวิทยาลัย เราก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปตอนไหน เพิ่งจะมาทราบมา หลังจากเพื่อนเค้าเรียนจบ แล้วเค้ามาคบกับเพื่อนกลุ่มใหม่ที่เป็นรุ่นน้อง สมัยก่อนไม่เป็น เพื่อนๆเค้ายังตกใจทำไมเปลี่ยนไป

นอกจากนี้พ่อของนายรภิษายังเคยบอกว่า สมัยก่อนลูกยังกลัวโดนแกล้ง แม่บอกว่า ใช่ เจ๊พรีมจะออกนิสัยตุ้งติ้งแต่เด็ก ไม่เล่นกับเพื่อนผู้ชายที่เล่นแรงๆ ซึ่งเล่นแต่ในบ้าน หรือ จะพาเพื่อนเล่นในบ้าน ตั้งแต่เล็กยันโต พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ที่บ้านช็อคกันทุกคน เพราะตั้งแต่เล็กจนโตไม่มีพฤติกรรมแบบนี้

ส่วนขายบุหรี่ไฟฟ้าเค และพอร์ตเค แม่ก็ไม่เคยรู้เช่นกัน แม่ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่เจอผู้เสียหาย จึงอยากขอโทษทุกคนที่เป็นผู้เสียหาย และขอโทษผู้ปกครองทุกคน เป็นความบกพร่องของแม่ด้วยที่ห่างเหินกับลูก เข้มงวดกับเขาไม่เต็มที่ ด้วยความไว้ใจ

อีกทั้งยังเพิ่งทราบจากมหาวิทยาลัย ลูกเรียนจบปริญญา 1 ใบ คณะนิเทศศาสตร์แล้ว ยังไม่รับปริญญา ทราบจากทางมหาวิทยาลัยว่าจะรับสิ้นปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบแต่ว่า ลูกมีปัญหาเรื่องฝึกงาน จะต้องเรียนต่ออีกหนึ่งเทอม แต่เพิ่งมาทราบว่า ลูกลงเรียนปริญญาใบที่ 2 ต่ออีก 1 ใบ คณะเดียวกันแต่คนละสาขา ที่ผ่านมาพ่อและแม่เสียค่าเทอมให้ตลอด เฉลี่ยแต่ละเทอมไม่เท่ากัน ประมาณ 50,000 – 100,000 บาท ล่าสุดโดนไปเกือบ 100,000 บาท หากเทอมไหนหาเงินจ่าย ไม่ได้ ก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ส่วนการเช่าหอพัก เช่าเดือนละ 10,000 กว่าบาท ของใช้ก็ซื้อให้ทุกเดือน ที่ทุ่มเทเพื่อลูกขนาดนี้ เพราะมีลูกคนเดียว และที่ผ่านมาพรีมก็เป็นเด็กตั้งใจเรียน

ระหว่างที่สื่อมวลชนรอทำข่าวกันอยู่ที่ สภ. คลองหลวงนั้น เมื่อเวลา 10.10 น. ทางพนักงานสอบสวนได้คุมตัว พรีมและโยชิ ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี รวมกับผู้ต้องหาในคดีอื่น แต่สุดท้ายก็ต้องนำตัว พรีมและโยชิ กลับมาเพราะว่าจะควบคุมตัว พรีมและพวกทั้งหมดรวม 8 คน ไปฝากขังครั้งเดียวกันในเวลา 13.00 น.

พันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ตอนนี้ดำเนินคดีไป 4 คดี ผู้ต้องหา 8 คน ส่วนที่กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายมาแจ้งความเมื่อวานเป็นคดีของท้องที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงได้สอบปากคำ และทำเรื่องไปยังท้องที่ที่รับผิดชอบ บางเคสผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ถือยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ผู้ต้องหาแต่ละคนถูกดำนเนินคดีที่แตกต่างกัน โดยพรีมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ส่วนโอชิรับสารภาพเฉพาะข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย แต่ปฏิเสธข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คนกลุ่มหลังยังให้การปฏิเสธ

เบื้องต้นได้รับการประสานจาก “กัน จอมพลัง” ว่าอาจจะมีการพาผู้เสียหายมาเพิ่มเติมอีก แต่ยังไม่ระบุวันและเวลา ซึ่งจัดพนักงานสอบสวนคอยรับเรื่องแล้ว ตอนนี้ตำรวจกำลังไล่เก็บพยานหลักฐานและพยานบุคคล หากพบใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมจะดำนเนินคดีต่อไป ส่วนการบุกรุกหอพักตามที่เป็นข่าว ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวเรื่องทีมขายพอร์ตเค ซีเต้และปาร์ตี้ที่เพื่อนร่วมหุ้นด้วยกัน ยอมรับว่า ร่วมกันลงทุนขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ไม่ได้ขายพอร์ตเค และไม่ได้จ่ายส่วยให้ตำรวจในการขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด ส่วนกรณีคลิปเสียงบังคับให้ผู้เสียหายวัดดวงดื่มเครื่องดื่มผสมไซยาไนด์นั้น พรีมให้การว่า ไม่ได้ทำจริงแต่เป็นการข่มขู่ผู้เสียหายให้กลัวเท่านั้น

ข้อมูล / ภาพ : ผู้จัดการออนไลน์