วันนี้The Mainstream จะพามาดู 5 ข่าวใหญ่เกี่ยวกับซิมผี บัญชีมา

1.จับผัวเมีย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับติดตั้ง Sim box หลอกเหยื่อ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุม 2 ผู้ต้องหาจากเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้แก่ นายเควิน สัญชาติอินโดนีเซีย และ น.ส.จิรนันท์ โดยมีข้อกล่าวหาฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ คดีนี้เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่อง GSM Gateways (Simbox) ที่สามารถส่งสัญญาณโทรหลอกประชาชนในไทยกว่า 3 แสนครั้งต่อเดือน โดยทำให้เบอร์โทรแสดงเป็นเบอร์ในประเทศเพื่อหลอกเหยื่อให้เข้าใจผิดว่าผู้โทรอยู่ในไทย เจ้าหน้าที่ได้จับกุมทั้งคู่ที่วิลล่าหรูในชะอำ จ.เพชรบุรี หลังจากสืบสวนพบว่าทั้งสองรับจ้างติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 50,000-60,000 บาท จากนายทุนต่างชาติ ขณะนี้กำลังขยายผลหาตัวนายทุนและผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม
2.จับตัวการใหญ่จัดหาบัญชีม้า หลอกเงินหมุนเวียน 1,200 ล้าน
7 ธันวาคม 2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขยายผล Operation Black Horse Down จับแก๊งชาวไนจีเรียที่หลอกลวงผู้เสียหายหลายราย โดยใช้บัญชีม้าทั่วประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท โดยเชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น คอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด เงินหมุนเวียนกว่า 1,200 ล้านบาท และมีบัญชีม้ากว่า 1,000 บัญชี เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน และขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ ทั้งคนไทยและต่างชาติ นอกจากนี้ยังเตือนประชาชนว่าการเปิดบัญชีม้าอาจทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาและมีโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี หรือปรับ 300,000 บาท

3.CIB บุกรวบ 2 ผู้กองโรงพักปอยเปต สวมเครื่องแบบวิดีโอคอลตุ๋น “ชาล็อต”
13 พฤศจิกายน 2567 โดยผู้ก่อเหตุอ้างถูกบอสจีนบังคับ หากขัดขืนจะถูกทำร้ายทุบตี เผย ชาล็อตร้องไห้หนัก กลัวกระทบการทำงาน จึงยอมโอนให้ตรวจสอบ 4 ล้านบาท ปฏิบัติการจับกุม “ดาวกองร้อย นายร้อยปอยเปต แก๊งคอลข้ามชาติ” จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายรามิล พันธวงศ์ อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4557/2567 ลงวันที่ 19 ก.ย. 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” และ นายธนาวุฒิ กันยาพันธ์ อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.153/2568 ลงวันที่ 1 ก.พ. 2568 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, สมคบฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยจับกุม นายรามิล ได้ที่บ้านเลขที่ 105 ม. 1 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ส่วน นายธนาวุฒิ จับได้ที่บ้านพักเลขที่ 44/94 ม.1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายแต่งกายเป็นตำรวจวิดีโอคอลมาข่มขู่อ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และคดียาเสพติด พร้อมส่งเอกสารปลอมต่างๆ มาให้ดู จนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและหลงเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตำรวจจริง ก่อนจะใช้กลอุบายหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายรวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
ชุดสืบสวนขยายผลกระบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวง น.ส.ชาล็อต หลังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีอื่นในระบบแจ้งความออนไลน์กว่า 100 คดี เบื้องต้นอยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง
4.ยึดซิมบอกซ์ 300 เครื่อง-ซิมการ์ดทรูดีแทค 3 แสนซิม
8 มีนาคม 2567 ไม่พูดถึงก็ไม่ได้สำหรับอันดับแรกที่เป็นที่ฮือฮาเลยเพราะเรื่องราวมันเกิดใจกลางกรุงในคอนโดหรูย่านรัชดา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำการสืบสวนจนแน่ชัด กระทั่งขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญา เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว คุมตัวผู้ต้องหาชาวจีน 6 คน พร้อมของกลาง แต่ที่หน้าตกใจเลยคือตำรวจพบซิมโทรศัพท์ทรูดีแทคจำนวนเกือบ3แสนซิม และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้แก่ 1. Sim Box จำนวน 300 เครื่อง 2. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 636 เครื่อง 3. เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง 4. จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 62 เครื่อง 5. CPU จำนวน 86 เครื่อง 6. แล็ปท็อป จำนวน 4 เครื่อง 7. คีย์บอร์ด จำนวน 8 เครื่อง 8. เมาส์ จำนวน 5 ตัว 9. เครื่องกระจายสัญญาณไวไฟ จำนวน 5 เครื่อง 10. แฟลชไดรฟ์ จำนวน 43 ชิ้น 11. RAM จำนวน 6 ชิ้น 12. สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม และ 13. สมุดจดบันทึก 1 เล่ม
โดยใช้ห้องพักในคอนโดมิเนียมทั้งหมด 6 ห้อง ในชั้น 16, 17 และชั้น 23 เป็นที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ซิมบ็อกซ์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 คน มีหน้าที่ในการดูแล ระบบซิมบ็อกซ์ทั้งหมด เช่น ไฟตก ไฟดับ หรือเครื่องพังและเสีย จะมีการสั่งเครื่องใหม่มาเปลี่ยน ส่วนผู้ที่ทำหน้าที่หลอกลวงผู้อื่นจะอยู่ในต่างประเทศ โดยใช้วิธีการยิงไวไฟเข้ามายังซิมบ็อกซ์
โดยซิมบ็อกซ์ 1 เครื่อง ใส่ซิมการ์ดได้ทั้งหมด 32 ซิม โทรออกไปยังเหยื่อเพื่อหลอกลวงได้ประมาณ 1 หมื่นครั้งต่อนาที หรือ 1 ชั่วโมงโทรออกได้ 6 แสนครั้ง โดยผู้ร่วมขบวนการแต่ละคน ทำหน้าที่เปลี่ยนซิมการ์ดในเครื่องซิมบ็อกซ์

5.ซิมมือถือทรูดีแทคกว่า 2 พันซิม ถูกทิ้งริมน้ำโขงมุกดาหาร
11 กุมภาพันธ์ 2568 ซิมมือถือของไทยมากว่า 2 พันซิม มีทั้งใช้งานแล้ว และยังไม่ได้ใช้งาน คาดอาจเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำมาทิ้ง
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดมุกดาหารได้รับแจ้งว่ามีผู้นำซิมโทรศัพท์มือถือมาโปรยทิ้งกระจายเกลื่อนเขื่อนริมตลิ่งแม่น้ำโขงหน้าตลาดอินโดจีน เทศบาลเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พบว่าเป็นซิมของทรูและดีแทค จึงได้ไปตรวจดูที่บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง หน้าตลาดอินโดจีนทางด้านทิศใต้ ที่พึ่งสร้างก่อสร้างเสร็จ มีซิมโทรศัพท์มือถือของ ค่ายทรูและดีแทคผู้ให้บรการรายใหญ่ของไทย ด้านหลังเขียนว่า ซิมพม่า (DSP) และซิม เครือเดียวกัน ที่ยังไม่ได้ใช้งานถูกทิ้งกระจายเกลื่อน ทั้งที่บริเวณถนนหน้าเขื่อน และบริเวณหินเรียงหน้าเขื่อนเป็นจำนวนมาก
ทางเจ้าหน้าที่ที่ชุดสืบสวน สภ.มุกดาหาร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับเก็บหลักฐานที่เป็นชิมมือถือ พบว่าพบมากกว่า 2,000 ซิม ถูกทิ้งไว้บริเวณบนบกและในน้ำโขงซึ่งซิม ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ผ่านการใช้งานโดยพบว่าส่วนที่พบบริเวณน้ำโขงนั้นถูกมัดรวมกันเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บรวบรวม เพื่อจะนำไปตรวจสอบหาแหล่งที่มาที่ชัดเจน เพราะซิมจำนวนมากขนาดนี้การนำทาทิ้งเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก