การกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ชายแดนไทย-เมียนมา: ความพยายามและปัญหา

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 กองกำลังกะเหรี่ยง BGF และกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ในจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ได้มีการปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังคงสร้างปัญหาในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ประมาณ 7,000 คน ซึ่งถูกตรวจสอบและคัดแยกว่าเป็นหัวโจกของแก๊งสแกมเมอร์หรือเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาระที่เกิดขึ้นจากการดูแลบุคคลเหล่านี้ โดยกองกำลัง BGF ได้ร้องขอให้รัฐบาลไทยและสถานทูตของประเทศต้นทางรีบประสานงานเพื่อรับตัวเหยื่อค้ามนุษย์กลับ โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการส่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนกลับไปได้เพียง 621 คนในระยะเวลา 3 วัน ซึ่งทำให้เกิดความไม่พอใจเนื่องจากจำนวนที่เหลือยังมีมาก

กองกำลัง DKBA ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน โดยมีชาวต่างชาติที่ถูกควบคุมตัวอยู่ถึง 401 คน ซึ่งรัฐบาลไทยยังคงรองรับค่าใช้จ่ายในการดูแลเหล่านี้ให้ครบ 3 มื้อ แม้ว่าจะมีการส่งตัวบางส่วนกลับไปแล้ว โดยยังมีอีกประมาณ 148 คนที่อยู่ในค่ายทหารไทย

ในขณะเดียวกัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยทหารราชมนู ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันที่จังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ประสานงานร่วมกับทหารและตำรวจจากกัมพูชาในการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการหลอกลวงเหยื่ออยู่ในเมืองปอยเปต โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทั้งหมด 227 คน

การดำเนินการปราบปรามนี้ยังคงมีความต่อเนื่อง โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานถึงการประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชาเพื่อขยายผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบต่อคนไทย แต่ยังส่งผลถึงผู้คนทั่วโลก

การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้เป็นความพยายามร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยมีการวางแผนเพื่อทำให้การกวาดล้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจนกว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหมดไปจากพื้นที่ชายแดนดังกล่าว

ข้อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ

ปลัดมหาดไทย ยืนยันพิจารณาคดีฮั้วเลือก สว. ตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวการเมือง

“รักชนก” ชำแหละงบทำฟันประกันสังคม 900 บาท แนะบอร์ดแพทย์ทิ้งทวนให้คนสรรเสริญ