ญี่ปุ่นต้นแบบระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวที่ทั่วโลกควรศึกษา

ญี่ปุ่นยกระดับการป้องกันภัยพิบัติ ด้วยระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหว J-Alert และ Cell Broadcast ที่ถือว่าดีที่สุดในโลก ช่วยลดความสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่หลายประเทศรวมถึงไทยเริ่มหันมาศึกษาแนวทางนี้อย่างจริงจัง

ญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบ

ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขต “แหวนแห่งไฟ” (Ring of Fire) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นพัฒนา J-Alert หรือ Japan’s Emergency Warning System เพื่อแจ้งเตือนประชาชนทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ พายุ หรือการโจมตีทางอากาศ

ระบบ J-Alert ทำงานโดยเชื่อมต่อกับ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปยังหลายช่องทางภายในไม่กี่วินาที เช่น โทรศัพท์มือถือ วิทยุ โทรทัศน์ ลำโพงสาธารณะ และป้ายดิจิทัล ช่วยให้ประชาชนสามารถอพยพหรือหาที่หลบภัยได้ทันท่วงที

Cell Broadcast เทคโนโลยีสำคัญที่เสริมประสิทธิภาพ J-Alert

เทคโนโลยี Cell Broadcast เป็นเครื่องมือหลักที่ใช้ในการกระจายข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในพื้นที่เป้าหมายโดยไม่ต้องอาศัยการส่ง SMS ทีละราย ทำให้การแจ้งเตือนรวดเร็ว ครอบคลุม และไม่ติดขัดแม้ในช่วงที่เครือข่ายโทรศัพท์มีปัญหา

ข้อดีของ Cell Broadcast ได้แก่:

  • ส่งข้อความได้ทันที แม้เครือข่ายจะล่ม
  • ไม่ต้องลงทะเบียนหรือดาวน์โหลดแอป
  • รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ
  • กระจายสัญญาณได้ครอบคลุมพื้นที่กว้าง

ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกๆ ที่นำ Cell Broadcast มาใช้ร่วมกับ J-Alert ตั้งแต่ปี 2550 และพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงระดับโลก

จุดเด่นของ J-Alert ที่ทำให้เป็นต้นแบบระดับสากล

ระบบ J-Alert ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบเตือนภัยที่ดีที่สุดในโลก ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

  1. ความเร็วสูงสุด – สามารถแจ้งเตือนภายในไม่กี่วินาทีหลังตรวจพบแรงสั่นสะเทือน
  2. หลายช่องทาง – เตือนผ่านมือถือ วิทยุ โทรทัศน์ ป้ายดิจิทัล และลำโพงสาธารณะ
  3. เข้าถึงคนต่างชาติ – ระบบสามารถแสดงข้อความได้หลายภาษา
  4. ใช้เทคโนโลยีทันสมัย – รวม AI, IoT และเครือข่ายเซนเซอร์กว่า 1,000 จุดทั่วประเทศ
  5. พิสูจน์ความแม่นยำในเหตุการณ์จริง – เช่น แผ่นดินไหวคุมาโมโตะในปี 2559 ที่ช่วยลดความสูญเสียได้อย่างมีนัยสำคัญ

ความพร้อมของประชาชน คือหัวใจสำคัญของระบบ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ระบบเตือนภัยของญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพ คือการเตรียมพร้อมของประชาชนผ่านการฝึกอบรมและการซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในโรงเรียนและสถานที่ทำงาน นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันอย่าง Yurekuru Call ที่ช่วยแจ้งเตือนแผ่นดินไหวผ่านสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์

ระบบยังเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน เช่น รถไฟชินคันเซ็น ที่สามารถหยุดขบวนรถทันทีเมื่อมีการตรวจพบแรงสั่นสะเทือน ป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายได้อย่างทันท่วงที

ประเทศไทยควรปรับตัวตามแนวทางญี่ปุ่น

แม้ประเทศไทยจะไม่ได้อยู่ในจุดที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้งเท่าญี่ปุ่น แต่ก็มีความเสี่ยง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก การศึกษาและนำระบบเตือนภัยแบบ J-Alert และ Cell Broadcast มาใช้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาพัฒนาเครือข่ายเซนเซอร์ ตรวจสอบความเสี่ยง และสร้างระบบแจ้งเตือนที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงฝึกอบรมให้ประชาชนมีความรู้และทักษะในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ญี่ปุ่น, J-Alert, Cell Broadcast, ระบบเตือนภัย, แผ่นดินไหว

ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ

ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จ่อเข้าสภา 9 เม.ย. รัฐบาลยันไม่ใช่แค่ “กาสิโน”

กสทช.รับฟังความเห็นรอบ 2 นักวิชาการหนุนมัดรวมประมูลทุกคลื่น ตั้งราคาเหมาะสมไม่กระทบผู้บริโภค วงการทีวีขอความชัดเจน 3500 MHz กสทช.จัดสรรให้อยู่ร่วมกันได้อย่างเหมาะสม