ดราม่า เบียร์ เดอะวอยซ์ vs หนุ่ม กรรชัย บทเรียนเสรีภาพการพูดที่สังคมไทยควรเข้าใจ

ในโลกเสรีที่แท้จริง เช่น สหรัฐอเมริกา หรือ สหราชอาณาจักร — เสรีภาพในการพูด (Freedom of Speech) นั้นถือเป็นรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่ในขณะเดียวกัน เสรีภาพนั้นมากับ “ภาระ” หรือ “ความรับผิดชอบ” ต่อสิ่งที่ตนเองสื่อสารออกไปเสมอ

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในอเมริกา แม้ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างกว้างขวาง แต่ถ้าเนื้อหานั้นเข้าข่าย หมิ่นประมาท (Defamation) หรือ ใส่ร้ายโดยไร้หลักฐาน (Libel/Slander) — ระบบยุติธรรมจะลงโทษอย่างไม่ลังเล โดยเฉพาะกรณีที่เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบุคคลหรือองค์กร

คดีตัวอย่าง: New York Times v. Sullivan (1964)
แม้ศาลสูงสุดสหรัฐจะปกป้องสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง แต่ก็วางหลักไว้ว่า “การหมิ่นประมาทโดยเจตนาร้าย หรือโดยประมาทเลินเล่อ” เป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ และผู้กล่าวหาต้องพิสูจน์ได้ว่ามีเจตนาร้ายจริง (Actual Malice)

ตรงกันข้ามกับบางกระแสในสังคมไทย ที่มีความเข้าใจผิดคิดว่า “เสรีภาพ” คือการพูดอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรับผิด ไม่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งแนวคิดเช่นนี้คืออันตรายร้ายแรงต่อเสรีภาพแท้จริง เพราะมันทำลายศรัทธาต่อกลไกทางสังคม และเปิดช่องให้อนาธิปไตยทางความคิดเข้าครอบงำ

ในอังกฤษ การหมิ่นประมาท (Defamation) เป็นคดีที่เข้มข้นยิ่งกว่าสหรัฐด้วยซ้ำ — ใครก็ตามที่ทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียงโดยไม่มีหลักฐานหรือเกินกว่าเหตุสมควร ต้องรับผิดทั้งในทางแพ่งและทางอาญา และบทลงโทษรุนแรงกว่าหลายประเทศที่อ้างตัวว่ามีเสรีภาพเต็มที่เสียอีก

ตัวอย่างคดีในอังกฤษ: Depp v. News Group Newspapers (2020)
กรณีจอห์นนี่ เดปป์ ฟ้องหนังสือพิมพ์ The Sun ว่าใส่ร้ายเขาเป็น “คนทำร้ายภรรยา” แม้สุดท้ายเดปป์จะแพ้คดี แต่กระบวนการในศาลพิสูจน์ให้เห็นว่า การกล่าวหาในสื่อจำเป็นต้องมีหลักฐานสนับสนุนอย่างแน่นหนา ไม่ใช่แค่ “เล่าต่อ” หรือ “โยนข้อกล่าวหา” แบบเลื่อนลอย

บทเรียนที่คนไทยควรเข้าใจ คือ

  • เสรีภาพต้องมีกรอบ คือกฎหมายที่คุ้มครองทั้งสิทธิผู้พูด และสิทธิของผู้ถูกพูดถึง
  • การกล่าวหาบุคคลสาธารณะโดยไม่มีหลักฐาน คือการทำลายเสรีภาพ ไม่ใช่การใช้เสรีภาพ
  • การปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตนเองในศาล คือสิทธิขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางกฎหมาย

เพราะฉะนั้น ดราม่า “เบียร์ เดอะวอยซ์ vs หนุ่ม กรรชัย” ไม่ใช่แค่เรื่องทะเลาะกันในวงการบันเทิง หากแต่เป็น “บทเรียน” ที่สะท้อนปัญหาลึกในวัฒนธรรมโซเชียลของไทย ว่าเรายังเข้าใจ “เสรีภาพ” ผิดอยู่มากเพียงใด

หากไม่แก้ไขความเข้าใจผิดนี้ สังคมไทยจะเดินหน้าไปสู่เสรีภาพจริงได้อย่างไร?

เสรีภาพที่แท้จริง ต้องเดินคู่กับความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงโหนกระแส เรียกยอดไลก์ แล้วปล่อยให้สังคมเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ด้วยการสร้างบรรยากาศความเกลียดชังที่ไม่มีใครต้องรับผิดอะไรเลย

เบียร์ เดอะวอยซ์, หนุ่ม กรรชัย, ดราม่าบันเทิง, เสรีภาพการพูด, กฎหมายหมิ่นประมาท

ภาพ : อิแฉ บวกหมดไม่สน v3

พีระพันธุ์โอนหุ้นแล้ว แต่ทำไมใจยังไม่ปล่อย?

ปิดหีบเลือกตั้งเมืองคอนปชป.ดิ่งเหว “ผู้กอง”ขึ้นหม้อ