แฟนคลับโดนขู่ทำร้ายเพราะบัตรคอนเสิร์ต บาดแผลจากทุนไร้กฎหมาย

ในโลกแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของแฟนคลับ
กลับมี “มือที่มองเห็น” และ “หมัดที่มองไม่ทัน”
ซุกซ่อนอยู่ในเงามืดของธุรกิจที่ควรจะโปร่งใส

ภาพของหญิงสาวที่ถูกทำร้ายหน้าจุดจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต ณ เมเจอร์ รังสิต ไม่ใช่แค่ “ข่าวดราม่า” ที่ต้องรีบเสพและลืมในวันรุ่งขึ้น หากแต่มันคือ “บทสะท้อนอำนาจทุน” ที่กล้าเหยียบย่ำคนตัวเล็กกลางสาธารณะโดยไร้ซึ่งความเกรงกลัวต่อกฎหมาย หรือแม้แต่สายตาของศิลปินผู้เป็นที่รักของสังคม

“พี่เป็นนายทุน จะทำอะไรก็ได้”
คือวลีที่น่าจะจารึกไว้ในห้องเรียนพลเมืองทั่วประเทศ

เพราะนี่ไม่ใช่แค่พฤติกรรมป่าเถื่อน แต่คืออภิมหา “อัตตานิยมของทุนซ้อนทุน” ที่กำลังกัดกินศิลปะและความเป็นมนุษย์ของอุตสาหกรรมบันเทิง

ลองย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ในต่างประเทศ ปี 2022 ประเทศเกาหลีใต้ มีการเปิดโปงเครือข่ายมาเฟียตั๋วคอนเสิร์ตวง BTS ซึ่งใช้บอทอัตโนมัติ (scalper bots) กดบัตรนับหมื่นใบ ก่อนนำมาขายเกินราคาบนตลาดมืด บางใบราคาทะลุ 10 เท่าของราคาจริง กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้รัฐบาลต้องเร่งออกกฎหมายควบคุมการจำหน่ายตั๋วและเอาผิดกับ “นายทุนใต้ดิน” เหล่านั้นอย่างจริงจัง

อเมริกาเองก็ไม่น้อยหน้า Live Nation – Ticketmaster ถูกสอบสวนโดยรัฐสภาสหรัฐอเมริกาในปี 2023 หลังมีแฟนคลับศิลปินดัง “Taylor Swift” ออกมาแฉว่าไม่สามารถซื้อตั๋วผ่านระบบปกติได้เลย เพราะโดนกลุ่มทุนลึกลับฮุบไปหมด

ใช่ครับ… ประเทศที่เจริญแล้ว เขาก็มี “ทุนเถื่อน” แบบเรา
แต่สิ่งที่เขามีเหนือกว่า คือ “กฎหมายไม่เลือกข้างทุน”

กลับมาที่ประเทศไทย เราไม่มีบอทกดบัตร sophisticated แบบในเกาหลี ไม่มีระบบผูกขาดยักษ์ใหญ่อย่าง Ticketmaster แต่สิ่งที่เรามีคือ “เครือข่ายมนุษย์ลับ” ที่กล้ารุมทำร้ายแฟนคลับสาวต่อหน้าสาธารณชน และป่าวประกาศอำนาจของตนด้วยประโยคที่น่าขนลุกยิ่งกว่าหนังมาเฟีย

ศิลปินออกมาโพสต์ข้อความดุเดือด — ใช่ครับ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ดี
ต้นสังกัดออกแถลงการณ์ — นั่นคือสิ่งที่จำเป็น
เมเจอร์ออกมายืนยันไม่สนับสนุนความรุนแรง — ยอดเยี่ยม
แต่มาตรการเชิงป้องกันคืออะไร?

หากยังไม่มีระบบจับตาคิว
หากยังไม่ควบคุมบัตรให้ผูกกับชื่อผู้ซื้อจริง
หากยังไม่สามารถเอาผิด “ทุนเถื่อน” ที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนได้จริง

…การแถลงทุกอย่างนั้นก็เป็นเพียง “ละครบนเวทีที่ไม่มีคนดู”

เพราะข้างนอกนั้น
มีคนตัวเล็กจำนวนมาก
ที่อยากได้แค่ “ตั๋วหนึ่งใบ เพื่อความสุขหนึ่งวัน”
แต่กลับต้องแลกด้วย “หมัดหนึ่งหมัด เพื่อความอยุติธรรมหนึ่งชาติ”

บทเรียนจากต่างประเทศบอกกับเราว่า:
ความรักของแฟนคลับคือพลังที่ยิ่งใหญ่
แต่อำนาจของทุนที่ไม่ถูกกำกับ…
มันสามารถเปลี่ยนเวทีดนตรีให้เป็นเวทีมวยได้ในพริบตา

แล้วประเทศไทยล่ะ…
เราจะปล่อยให้ “คอนเสิร์ตแห่งความฝัน”
กลายเป็น “สมรภูมิของอำนาจเถื่อน” อีกกี่ครั้ง?

มาเฟียกดบัตร, คอนเสิร์ตแฟนคลับ, ความรุนแรงหน้าเคาน์เตอร์, ทุนผูกขาด, ตั๋วคอนเสิร์ตเกินราคา

ข้อมูล/ภาพ : mgronline

ชายอังกฤษจุดไฟเผาบ้านตัวเอง หลงใหลนักดับเพลิงจนบ้านวอด ไฟในใจที่ไม่มีใครดับ

“ถอยทหารจากปราสาทตาเมือนธม” ไม่ใช่ยกแผ่นดิน ถอดรหัส MOU 43 กับบทเรียนชายแดนโลก