กลางวันแสก ๆ วันที่ 2 มิถุนายน เวลา 14:07 น. ใครอยู่เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา หรือแม่ฮ่องสอน คงรู้สึกไม่ต่างกัน โคลงเคลงไปทั้งบ้าน ทั้งตึก
รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยายืนยันชัด เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.5 ริกเตอร์ ลึกเพียง 1 กิโลเมตร ที่บริเวณตำบลแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
จุดศูนย์กลางอยู่ใกล้กับรอยเลื่อนเก่าอย่างกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ที่ผู้รู้ด้านธรณีวิทยาเตือนมานาน แม้จะนิ่งมาหลายปี แต่ธรรมชาติไม่มีใครบอกได้ว่านิ่งจริงหรือแค่รอเวลา
แรงสั่นสะเทือนคราวนี้รับรู้ได้ทันที ชาวบ้านในพร้าว ลำพูน ยันเข้าเมืองเชียงใหม่ โพสต์กันเต็มหน้าฟีดว่าบ้านสั่น ตึกโยก ข้าวของตกพื้น แม้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียหายหนักก็ตาม
แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ใช่ฟ้าผ่าไร้เค้า
ข้อมูลย้อนหลังพบว่า ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมจนถึงก่อนเกิดเหตุนี้เพียงไม่กี่วัน
มีแผ่นดินไหวขนาดเล็กหลายครั้ง ตั้งแต่ 1.4 ถึง 2.6 ริกเตอร์ เกิดขึ้นซ้ำ ๆ แถวแม่แตง สบเปิง พร้าว
พูดง่าย ๆ ว่าแผ่นดินเริ่มมีอาการมาระยะหนึ่งแล้ว
จนมาปลดปล่อยพลังสะสมครั้งนี้ที่ขนาด 4.5 ริกเตอร์ ซึ่งแรงพอให้ชาวบ้านสะดุ้ง ช่างก่อสร้างบนตึกสูงต้องรีบหยุดงาน เฝ้ามองอาคารที่โอนเอนไปมา
เขื่อนแม่งัดผ่านด่านแรก
หนึ่งในความกังวลใหญ่ของคนเชียงใหม่คือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหว
โชคดี รายงานจากการตรวจสอบเร่งด่วนหลังเกิดเหตุยืนยันว่าตัวเขื่อนยังปลอดภัย ไม่ได้รับผลกระทบ
แต่คำถามสำคัญคือ ถ้าแรงกว่านี้อีกสักนิดล่ะ
เพราะเขื่อนเก่าในภาคเหนือหลายแห่งสร้างในยุคที่วิทยาการการรับมือกับแผ่นดินไหวยังไม่ได้มาตรฐานปัจจุบัน
สัญญาณเตือนจากรอยเลื่อนแม่ทา
นักวิชาการหลายรายเริ่มพูดตรงกันว่า
กลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ซึ่งเคลื่อนตัวแบบ Normal fault หรือการเลื่อนในแนวดิ่ง ยังถือเป็นตัวแปรที่ต้องจับตา
ขนาด 4.5 ริกเตอร์ในวันนี้อาจยังไม่ใช่ที่สุด หากพลังสะสมในเปลือกโลกยังมีเหลือ
เสียงสะท้อนจากคนเหนือ
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มตื่นตัวมากขึ้น
หลายคนพูดตรง ๆ ว่าไม่เคยคิดว่าภาคเหนือจะสั่นแรงแบบนี้
และหลายหน่วยงานก็เริ่มประชุมเตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิด Aftershock หรือแผ่นดินไหวซ้ำในระยะใกล้ ๆ นี้
บทเรียนรอบนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องการโยกตัวของพื้นดิน แต่มันคือเสียงเตือนว่าเรายังประมาทธรรมชาติไม่ได้
และถึงเวลาแล้วที่มาตรการตรวจสอบอาคาร โครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงการเตรียมประชาชน ต้องจริงจังกว่าที่ผ่านมา
