กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนทั่วไทยให้เตรียมพร้อมรับมือ พายุไต้ฝุ่นวิภา (Typhoon Wipha) ซึ่งแม้จะยังไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลโดยอ้อมอย่างชัดเจนแล้วในขณะนี้ โดยจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และคลื่นลมแรงในหลายพื้นที่ช่วงระหว่างวันที่ 21–24 กรกฎาคม โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขณะที่บางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้แล้วอย่างรุนแรง
แค่เฉียดก็ทำฝนถล่มทั่วประเทศ
แม้เส้นทางของ ไต้ฝุ่นวิภา จะยังไม่เคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง โดยศูนย์กลางของพายุอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีนและฟิลิปปินส์ แต่พายุลูกนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อสภาพอากาศของไทยผ่านการดึง “ร่องมรสุม” ให้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมเป็นต้นไป
โดยกรมอุตุฯ ยืนยันว่า พายุวิภาจะไม่เข้าสู่ไทยโดยตรง แต่ผลกระทบทางอ้อมนั้นชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศ
อุตุฯ เตือนภัยฝนตกหนักใน 60 จังหวัด เรือเล็กงดออกฝั่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศแจ้งเตือน 60 จังหวัดทั่วไทย โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออก ให้ระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขังในเมืองใหญ่ และดินถล่มในพื้นที่ลาดชัน รวมถึงผลกระทบต่อภาคการเกษตรในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก
นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนสำหรับประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยระบุว่า ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูง 2–4 เมตร ในช่วงวันที่ 21–24 กรกฎาคม เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด พร้อมแนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางทะเลในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย
หลายประเทศในเอเชียเจอถล่มหนัก ไทยต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ ไต้ฝุ่นวิภา ได้เคลื่อนผ่านพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ ฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมในกรุงมะนิลาและหลายจังหวัดโดยรอบ ส่งผลให้มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 10,000 คน ขณะเดียวกัน ไต้หวัน และ เกาะฮ่องกง ก็เริ่มได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงและฝนตกหนัก
นอกจากนี้ ประเทศเวียดนามตอนเหนือ โดยเฉพาะบริเวณฮานอย ก็เริ่มมีรายงานฝนตกหนักและการเตรียมอพยพประชาชนในบางพื้นที่ เนื่องจากพายุลูกนี้เคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตชายฝั่งทะเลจีนใต้และมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็น “ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น” ในระยะเวลาอันใกล้
