วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายกรัฐมนตรี ฮุนมาเนต ของกัมพูชา ได้ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อประณามการปะทะชายแดนกับไทยที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกล่าวอ้างว่ากองทัพไทยเป็นฝ่ายรุกรานและละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งชีวิตพลเรือนและโบราณสถานอันมีคุณค่าทางวัฒนธรรม พร้อมเรียกร้องให้ UNSC ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อยุติความขัดแย้งและสร้างสันติภาพในภูมิภาค
ฮุนมาเนต ชี้ไทยรุกราน ละเมิดอธิปไตยกัมพูชา
ในจดหมายที่ส่งถึง UNSC นั้น ฮุนมาเนต ระบุว่า การยิงปะทะชายแดนที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน โดยฝ่ายไทยได้ทำลายโบราณสถานสำคัญในพื้นที่และทำให้มีผู้เสียชีวิตในหมู่พลเรือนมากมาย ทั้งนี้ เขาย้ำว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาค และเป็นภัยคุกคามต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียน
การส่งจดหมายครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ UNSC ดำเนินการทันทีผ่านมาตรการทางการทูตหรือทางกฎหมาย พร้อมสนับสนุนให้เกิดการเจรจาอย่างสันติในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ฮุนมาเนตยังระบุว่ากัมพูชาได้ยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อขอให้พิจารณาและตัดสินข้อพิพาทเขตแดนอย่างเป็นทางการ แม้ฝ่ายไทยจะปฏิเสธเข้าร่วมกระบวนการนี้

ผลกระทบต่อพลเรือนและโบราณสถาน
ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนซึ่งมีโบราณสถานอย่าง ปราสาทตาเมือนธม และพื้นที่สำคัญในสามเหลี่ยมมรกต (Emerald Triangle) ได้รับความเสียหายอย่างหนัก นอกจากความสูญเสียของชีวิตพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบแล้ว ยังมีความกังวลว่าการใช้กำลังทางทหารอาจทำลายมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่สามารถทดแทนได้
ฮุนมาเนตได้เรียกร้องให้ชุมชนนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศเข้ามามีบทบาทในการปกป้องพื้นที่ดังกล่าวและช่วยฟื้นฟูสันติภาพ เพื่อป้องกันการลุกลามของความขัดแย้งในอนาคต
แนวทางและความคาดหวังจากการประชุม UNSC
หลังจากได้รับจดหมายจากกัมพูชา UNSC ได้จัดประชุมด่วนเพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนในภูมิภาคนี้ โดยคาดหวังว่าคณะมนตรีจะผลักดันให้มีการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา รวมทั้งย้ำถึงความจำเป็นในการเคารพอธิปไตยและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่า การเคลื่อนไหวของ ฮุนมาเนต ในครั้งนี้เป็นการใช้เวทีระหว่างประเทศเพื่อเสริมสถานะและความชอบธรรมในข้อพิพาท พร้อมเรียกร้องความเป็นธรรมสำหรับประชาชนกัมพูชา ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการป้องกันตนเองและการรักษาความมั่นคงในเขตแดน