วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ตึงเครียดจากเหตุปะทะหลายครั้ง เริ่มมีทิศทางคลี่คลาย หลังการหารือระหว่างฝ่ายทหารระดับสูงของทั้งสองประเทศ ณ จุดผ่านแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ โดยพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้พบกับรองผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา และสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ 7 ข้อ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการระงับความขัดแย้ง
วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า การหารือครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเร่งด่วนและดำเนินไปด้วยความราบรื่น ฝ่ายไทยและกัมพูชาต่างแสดงท่าทีจริงจังต่อการลดระดับความตึงเครียดชายแดน และต้องการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำ
สำหรับสาระสำคัญของการหารือ ฝ่ายทหารทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันในข้อตกลง 7 ข้อ ได้แก่
- หยุดยิงทันที
- ห้ามใช้ความรุนแรงต่อประชาชน
- ห้ามเสริมกำลังเพิ่มเติมในพื้นที่
- ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังพลจากจุดปัจจุบัน
- อำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต
- จัดตั้งคณะประสานงานร่วม ฝ่ายละ 4 คน เพื่อดูแลและแก้ไขสถานการณ์
- รอผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เพื่อพิจารณามาตรการเพิ่มเติม
แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางกลับจากช่องจอมหลังเสร็จสิ้นการหารือ โดยไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ฝ่ายกัมพูชาก็แสดงท่าทีให้ความร่วมมืออย่างชัดเจน สะท้อนถึงความพยายามร่วมกันของทั้งสองประเทศในการคลี่คลายปัญหาอย่างสันติ

ก่อนหน้านี้ กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออก โดยเฉพาะในเขตจังหวัดจันทบุรีและตราด ภายใต้การดูแลของกองกำลังบูรพา และกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี–ตราด ก็ได้มีการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาไปแล้วเช่นกัน และมีแนวทางความร่วมมือในทิศทางเดียวกัน
กองทัพบกระบุว่า หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจากการเจรจาทางทหาร หรือผลการประชุม GBC ในวันที่ 4 สิงหาคม จะมีการแถลงข่าวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนทั้งสองฝ่าย
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นหมุดหมายสำคัญของความพยายามทางการทูตทหารในการป้องกันความรุนแรง พร้อมเปิดทางสู่แนวทางสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา