สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะทางทหารต่อเนื่องหลายวัน โดยระบุว่า “ข้อพิพาทเรื่องเขตแดนที่ยังไม่ชัดเจน” เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความรุนแรง และจากข้อมูลหลายฝ่าย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน ซึ่งสวนทางกับคำกล่าวหาของทางการพนมเปญที่พยายามโยนความผิดให้ไทย
ข้อพิพาทประวัติศาสตร์ยังไม่เคลียร์
รายงานของ Reuters อ้างอิงจากแหล่งข่าวในภูมิภาคและเจ้าหน้าที่ทหารไทย ระบุว่า จุดเริ่มต้นของการปะทะเกิดขึ้นในเขตใกล้ ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ทั้งสองประเทศยังไม่มีการแบ่งเขตแดนอย่างเป็นทางการ ภายใต้กรอบคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่หยุดชะงักมานานนับปี
แม้จะมีบันทึกความเข้าใจร่วมหลายฉบับในอดีต แต่การสำรวจพิกัดจริงยังไม่แล้วเสร็จ และกัมพูชายังคงอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ที่ฝ่ายไทยถือครองมาตลอด จุดนี้จึงกลายเป็นแนวปะทะทางยุทธศาสตร์ที่ทั้งสองฝ่ายยกระดับกำลังพลอย่างต่อเนื่อง

ใครเปิดฉากยิงก่อน?
แม้ รัฐบาลกัมพูชา จะอ้างในเวทีระหว่างประเทศว่า “ไทยเปิดฉากยิงก่อน” เพื่อสกัดกั้นการเข้าถึงพื้นที่พิพาท แต่ข้อมูลจากฝ่ายไทยกลับชี้ชัดว่าทหารกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงปืนครกและปืนกลก่อน
แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพไทยเปิดเผยว่า มีการบันทึกคลิปวิดีโอจากโดรนตรวจการณ์ของกองทัพซึ่งจับภาพช่วงเวลาและทิศทางของการยิงได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีพยานจากหมู่บ้านใกล้เคียงซึ่งยืนยันว่าได้ยินเสียงปืนจากฝั่งกัมพูชาก่อน
นอกจากนี้ รายงานของรอยเตอร์ ยังระบุว่าฝ่ายไทยหลีกเลี่ยงการใช้กำลังเกินเหตุ โดยมีคำสั่งชัดเจนให้ใช้การเจรจาเป็นแนวทางหลักก่อนตอบโต้ด้วยกำลังทหาร
นานาชาติผลักดันความร่วมมือทางการทูต
ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติ ประเทศไทย พยายามผลักดันการแก้ไขสถานการณ์ผ่านช่องทางการทูต โดยเสนอให้จัดการหารือผ่านที่ประชุม ASEAN และเชิญผู้แทนจากประเทศที่สามเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง
ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้สื่อของรัฐและโซเชียลมีเดียในการเผยแพร่ข้อมูลฝ่ายเดียว รัฐบาลไทยกลับเปิดพื้นที่ให้สื่อสากลลงพื้นที่ พร้อมจัดเวทีสาธารณะเพื่อชี้แจงจุดยืนและหลักฐานทั้งหมด