AIS ร่วมกับ ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ Operation Pinklao จับกุมชายไทย 2 ราย อายุ 20 และ 22 ปี ที่ขับรถตระเวนส่ง SMS ปลอมพร้อมลิงก์ฟิชชิ่ง โดยใช้เครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) เพื่อแอบอ้างข้อความจากหน่วยงานต่าง ๆ หลอกลวงประชาชนให้กดลิงก์หวังดูดเงิน
ปฏิบัติการ Operation Pinklao
ตำรวจไซเบอร์จับมือ AIS บูรณาการเข้มข้นในปฏิบัติการ “Operation Pinklao” เพื่อปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพที่ใช้เทคโนโลยีหลอกลวงประชาชนในรูปแบบ SMS ฟิชชิ่ง ข่าวระบุว่าเยาวชนไทยสองรายถูกจับระหว่างขับรถกระจาย SMS ปลอมพร้อมลิงก์ไปยังเว็บไซต์หลอกลวง ซึ่งอาจทำให้เหยื่อเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลหรือเงินในบัญชี
กระบวนการสืบสวนเริ่มจาก AIS ได้รับแจ้งเหตุจากผู้ใช้บริการว่าตนได้รับ SMS น่าสงสัยส่งมาทางโทรศัพท์ จากนั้น AIS ประสานกับตำรวจไซเบอร์และร่วมติดตามข้อมูลจนพบรถยนต์ต้องสงสัยที่ใช้ส่ง SMS ปลอมในพื้นที่กรุงเทพฯ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด

วิธีก่อเหตุและเทคโนโลยีที่ใช้
ผู้ต้องหาทั้งสองใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า False Base Station ซึ่งเป็นเครื่องจำลองสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ติดตั้งในรถยนต์ ทำหน้าที่ส่งสัญญาณ SMS ปลอมในพื้นที่ใกล้เคียง โดยข้อความมักอ้างเป็นหน่วยงาน เช่น ธนาคารหรือค่ายโทรศัพท์และแนบลิงก์เพื่อหลอกให้ผู้รับกด จากนั้นทำการ “ดูดเงิน” หรือดึงข้อมูลส่วนบุคคล
AIS ชี้แจงว่าไม่มีนโยบายส่งลิงก์ให้ลูกค้ากรอกข้อมูลส่วนตัวใด ๆ และยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวเป็นของมิจฉาชีพเท่านั้น ขณะที่ทีมวิศวกรจาก AIS ได้ลงพื้นที่ประสานกับตำรวจไซเบอร์เพื่อระบุตำแหน่งภัยและสกัดกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว

มาตรการป้องกันและคำแนะนำเพื่อประชาชน
ในฐานะผู้ให้บริการรายใหญ่ AIS ได้เตือนประชาชนให้ระมัดระวัง ซึ่งรวมถึงการงดคลิกลิงก์ที่มาจาก SMS หรือข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ งดให้ข้อมูลสำคัญ เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต วันเดือนปีเกิด หรือรหัส OTP แก่ผู้ที่ไม่รู้จัก นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถใช้ฟังก์ชัน *1185# กดภายใน 5 นาทีหลังรับสายหรือ SMS ที่น่าสงสัย เพื่อให้ระบบตรวจสอบและบล็อกเบอร์นั้น ๆ โดยอัตโนมัติ รวมถึงแจ้งผ่านสายด่วน AIS Spam Report Center 1185 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
ทางตำรวจไซเบอร์เองย้ำว่าหากประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพสามารถโทรสายด่วน AOC หมายเลข 1441 หรือรายงานผ่านระบบออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.go.th ได้ตลอดเวลา