การประชุม RBC ไทย–กัมพูชา ปิดฉากด้วยดี หวังลดตึงเครียดชายแดน

การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระหว่างไทยและกัมพูชา ในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่จังหวัดสระแก้ว เสร็จสิ้นลงอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมการลงนามบันทึกข้อตกลง 13 ข้อ เพื่อยืนยันแนวทางสันติภาพและความร่วมมือ หลังจากความตึงเครียดชายแดนยืดเยื้อมานาน

การประชุมที่สระแก้ว บรรยากาศผ่อนคลาย

การหารือจัดขึ้น ณ สโมสรค่ายสุรสิงหนาท มณฑลทหารบกที่ 19 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ใช้เวลาประชุมราว 1 ชั่วโมง โดยมีผู้แทนจากกองทัพไทยและกองทัพกัมพูชาร่วมเจรจาในบรรยากาศที่ถือว่าผ่อนคลายและเป็นมิตร หลังการประชุม กองทัพภาคที่ 1 เปิดให้สื่อมวลชนบันทึกภาพการลงนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งสะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการคลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน

ยกข้อตกลงจากเวทีกัวลาลัมเปอร์มาสู่การปฏิบัติ

ประเด็นหลักที่ทั้งสองฝ่ายนำมาหารือคือ “ข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ” ที่เคยเจรจาไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 และครั้งนี้ถือเป็นก้าวต่อสำคัญในการผลักดันสู่การปฏิบัติจริง โดยมีเป้าหมายสร้างกลไกความร่วมมือทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่

สาระสำคัญของ “ข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ”

  1. ยืนยันการหยุดยิงถาวร ห้ามปฏิบัติการทางทหารที่อาจนำไปสู่การปะทะ
  2. งดเพิ่มกำลังพลหรืออาวุธในพื้นที่พิพาทและแนวชายแดน
  3. จัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์ร่วม (Joint Observation Team) เพื่อติดตามสถานการณ์
  4. แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคงอย่างสม่ำเสมอ
  5. จัดประชุมติดตามผลทั้งในระดับท้องถิ่นและกองบัญชาการ
  6. ห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรในพื้นที่พิพาท
  7. หลีกเลี่ยงการซ้อมรบหรือปฏิบัติการที่อาจสร้างความหวาดระแวง
  8. อนุญาตความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เช่น การอพยพ การแพทย์ และภัยพิบัติ
  9. ส่งเสริมการค้าและการสัญจรบริเวณชายแดนเพื่อประโยชน์ของประชาชน
  10. เคารพสิทธิและศักดิ์ศรีของกำลังพลทั้งสองฝ่าย งดการยั่วยุ
  11. ป้องกันความขัดแย้งท้องถิ่น เช่น การลักลอบเข้าเมืองและสินค้าหนีภาษี
  12. ตั้งคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ร่วม เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง ลดความเข้าใจผิด
  13. ยึดมั่นแนวทางสันติวิธี โดยใช้การหารือทางทูตและทางทหารอย่างต่อเนื่อง

สัญญาณบวกต่อความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา

การลงนามครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดแรงกดดันจากความตึงเครียดที่ยืดเยื้อบริเวณชายแดน โดยไม่เพียงสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคง แต่ยังเปิดประตูไปสู่การพัฒนาความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้าชายแดน การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ร่วมกันของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชาในทิศทางใหม่ที่มั่นคงกว่าเดิม

โห่สนั่น “รังสิมันต์ โรม” กลางเวที คปท. หลังขึ้นรับหนังสือเรียกร้องยกเลิก MOU

สรุปศาลอาญายกฟ้อง “ทักษิณ” คดี 112 เหตุพยานหลักฐานไม่เพียงพอ