ไทยประกาศกฎอัยการศึก ชายแดนสระแก้ว ยื่นหลักฐาน ทุ่นระเบิด UN เพิ่ม

ไทย เสริมแนวรุกทางการทูต หลัง เอกราชทูตไทยประจำ UN ยื่นหลักฐานสถานการณ์ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ สหประชาชาติ (UN) เข้ามาช่วยแก้ปัญหาความรุนแรง ในขณะที่ กองกำลังบูรพา ประกาศใช้ กฎอัยการศึก ในบริเวณบ้านหนองจาน สระแก้ว เพื่อสกัดเหตุจลาจล ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอย่างชัดเจนว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยไทยและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

ไทยยื่นหลักฐานเรื่องทุ่นระเบิดชายแดนต่อ UN

เอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ ได้นำหลักฐานการใช้ ทุ่นระเบิด ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชายื่นต่อ เลขาธิการ UN เพื่อเรียกร้องให้สถาบันระหว่างประเทศเข้ามาดูแลสถานการณ์เชิงรุก โดยไทยเน้นย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงส่งผลต่อชีวิตทหารไทย แต่ยังเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนจุดยืนอย่างเด็ดขาดของรัฐบาลไทย ในการใช้ช่องทางการทูตระหว่างประเทศเพื่อเรียกร้องความชัดเจน และป้องกันการลุกลามของสถานการณ์ให้สันติวิธีเป็นแนวทางหลัก

ประกาศกฎอัยการศึกที่บ้านหนองจาน

กองกำลังบูรพา ลงนามโดย พล.ต. เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ประกาศใช้ กฎอัยการศึก ในพื้นที่บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว (ประกาศที่ 109/2568) โดยกำหนด ถนนศรีเพ็ญ เป็นแนวรักษาความสงบ พร้อมมาตรการเข้มงวดห้ามพกอาวุธ ห้ามถ่ายรูปฐานทหาร ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงโดยพลการ รวมถึงห้ามทะเลาะวิวาทหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่

การใช้มาตรการนี้มีเป้าหมายรักษาอธิปไตยของชาติ ปกป้องประชาชน และยับยั้งความไม่สงบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดน โดยแสดงให้เห็นการเตรียมพร้อมและการตอบสนองเชิงป้องกันของไทยอย่างชัดเจน

กระทรวงต่างประเทศ ประณามรุนแรง

โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ออกแถลงการณ์อย่างแข็งกร้าวว่า เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น เป็น “การละเมิดอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน” และเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ ไทยจะใช้ช่องทางทางการทูตทั้งแบบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อกดดันให้กัมพูชาถือปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และพันธกรณีตามอนุสัญญาที่เกี่ยวข้อง

โดยชัดเจนว่าไทยมีความตั้งใจแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี แต่พร้อมใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามเสียก่อน

ประเทศไทยในมือ“รัฐพันลึก”

มติศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด แพทองธารพ้นเก้าอี้นายกฯ เหตุผิดจริยธรรมร้ายแรง