กลาโหมย้ำชัดยังไม่เปิดด่านชายแดน
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงยืนยันว่า ยังไม่มีการเปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชาในขณะนี้ การหารือที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการเตรียมการในอนาคตเท่านั้น โดยเน้นว่าทุกขั้นตอนต้องอยู่บนพื้นฐานของการประเมินความจริงใจและการปฏิบัติตามข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชาอย่างรอบคอบ
การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา (General Border Committee: GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดเกาะกง กัมพูชา เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นการใช้กลไกทวิภาคีเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดน โดย พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่าการปกป้องอธิปไตยของชาติเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด ควบคู่กับการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน
ประเด็นที่ประชุม GBC เห็นพ้องร่วมกัน
ที่ประชุมมีข้อตกลงสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน การร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด การจัดตั้งทีมปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ การบริหารจัดการพื้นที่ทับซ้อน และการหารือแนวทางผ่อนปรนการผ่านแดนในอนาคตเฉพาะรถขนส่งสินค้า ข้อตกลงเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นก้าวแรกในการสร้างความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการปฏิบัติจริงของฝ่ายกัมพูชา

การแบ่งโซนชายแดนและแนวทางผ่อนปรน
เพื่อความเหมาะสม กระทรวงกลาโหมได้กำหนด 3 ระดับของพื้นที่ชายแดนตามความตึงเครียด ได้แก่
โซนที่ 1 ความตึงเครียดสูงสุด ครอบคลุมจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์
โซนที่ 2 ความตึงเครียดปานกลาง คือชายแดนจังหวัดสระแก้ว
โซนที่ 3 ความตึงเครียดน้อย บริเวณจันทบุรีและตราด ซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่นำร่องหากมีการผ่อนปรนการผ่านแดนในอนาคต โดยเน้นเฉพาะการขนส่งสินค้า ไม่รวมบุคคล
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) หอการค้า กรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม จะเข้ามาร่วมกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งเรื่องประเภทสินค้า ช่วงเวลา และจำนวนเที่ยวรถที่จะอนุญาตให้ผ่านแดน
ย้ำเจตนารมณ์รักษาอธิปไตยและปากท้องประชาชน
โฆษกกระทรวงกลาโหมย้ำว่านโยบายสำคัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ คือการปกป้องอธิปไตยของชาติและดูแลปากท้องประชาชน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ และครัวเรือน การเดินหน้าข้อตกลงจึงต้องอาศัยความจริงใจจากกัมพูชาเป็นหลัก หากไม่มีการปฏิบัติอย่างจริงจัง ความร่วมมือที่ตกลงไว้ย่อมไม่เกิดผล


