วันที่ 18 กันยายน 2568 ในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายรังสิมันต์ โรม ผู้แทนจากประเทศไทย ได้ลุกขึ้นโต้แย้งข้อเสนอเร่งด่วนจากกัมพูชาที่ต้องการให้ที่ประชุมหารือปัญหาความขัดแย้งชายแดนและกดดันไทยเปิดด่าน โดยยืนยันว่าการนำประเด็นทวิภาคีเข้าสู่เวทีพหุภาคีไม่เหมาะสม พร้อมย้ำว่าไทยจะยังไม่เปิดด่านจนกว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ประการ
โรมชี้ปัญหาชายแดนควรแก้ด้วยกลไกทวิภาคี
นายรังสิมันต์อธิบายต่อที่ประชุมว่า ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาเกี่ยวกับด่านชายแดนเป็นประเด็นทวิภาคีที่ทั้งสองประเทศมีกลไกเจรจาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประชุมคณะกรรมการเขตแดนทั่วไป (GBC) หรือการทำงานของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ซึ่งถือเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพและตรงประเด็นมากกว่า
เขาย้ำว่าการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การหารือในเวทีพหุภาคี เช่น AIPA อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และไม่ช่วยให้การแก้ปัญหามีความคืบหน้าอย่างแท้จริง

ยืนยันเงื่อนไข 3 ข้อ ก่อนเปิดด่านชายแดน
สำหรับการปิดด่านชายแดน นายรังสิมันต์ระบุว่าเป็นมาตรการเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนไทย พร้อมย้ำว่าไทยจะยังไม่เปิดด่านจนกว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ข้อ ได้แก่
- ถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดน
- ร่วมกันกวาดล้างทุ่นระเบิด
- ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
เขายืนยันว่าหากกัมพูชาดำเนินการตามเงื่อนไขเหล่านี้ ความร่วมมือด้านชายแดนจะสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติได้
ที่ประชุม AIPA โหวตตีตกข้อเสนอฉุกเฉินกัมพูชา
ท้ายที่สุด ที่ประชุม AIPA มีมติไม่บรรจุข้อเสนอวาระเร่งด่วนของกัมพูชาตามที่ผู้แทนไทยทักท้วง โดย ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้เปิดโอกาสให้นายรังสิมันต์แสดงเหตุผลอย่างเต็มที่และมีท่าทีเห็นด้วยตลอดการอภิปราย
ด้าน สมเด็จ ควร สุดารี ประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา ผู้เสนอวาระดังกล่าว แสดงอาการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดเมื่อข้อเสนอถูกตีตกกลางที่ประชุม


