เวลา 08.15 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก พร้อมร่วมร้องเพลงชาติและพบปะเด็ก ๆ โดยระบุชัดว่า แม้จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ยังพร้อมทำหน้าที่ให้กองทัพอย่างเต็มที่ในฐานะที่ปรึกษา และจะไม่เข้าสู่เส้นทางการเมือง แม้มีผู้ทาบทามให้ดำรงตำแหน่งระดับสูง เพราะมองว่าไม่มั่นคงและไม่ยั่งยืน
ย้ำไม่เล่นการเมือง แม้มีการทาบทามตำแหน่งสูง
พลโทบุญสิน ยืนยันว่า ตนปฏิเสธข้อเสนอจากฝ่ายการเมืองที่ต้องการให้เข้ารับตำแหน่งสำคัญ เนื่องจากเห็นว่าไม่ถาวรและอาจไม่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม พร้อมยกตัวอย่างการพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เมื่อทราบว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก็เปิดใจและพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา
เขาย้ำว่าหลังเกษียณจะยังคงรักษาสถานภาพนี้ต่อไป โดยช่วยงานกองทัพในฐานะที่ปรึกษาเพื่อเพื่อนร่วมงาน และไม่ดึงเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังขึ้นกับสถานการณ์
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย–กัมพูชา (RBC) ว่ายังไม่ได้กำหนดวัน รวมถึงการถอนอาวุธหนักที่เคยหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ก็ยังต้องรอดูสถานการณ์และความจริงใจของฝ่ายกัมพูชา โดยย้ำว่าทุกความเคลื่อนไหวที่ชายแดนจะต้องสอดคล้องกับนโยบายร่วมและมีมาตรการระมัดระวังร่วมกัน
เขายอมรับว่า ปัญหาชายแดนบางส่วนยังคงซับซ้อน แต่มั่นใจว่าการทำงานของกองทัพภาคที่ 2 จะราบรื่นขึ้นด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ย้ำว่ากองทัพต้องทำตามนโยบายรัฐบาล เพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ของชาติ

ชี้เหตุปะทะรอบสองขึ้นกับเงื่อนไขในพื้นที่
เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ของการปะทะรอบที่สองกับกัมพูชา พลโทบุญสินระบุว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากเกิดขึ้นก็เพื่อประโยชน์และการปกป้องอธิปไตยของประเทศ แต่หากไม่เกิดก็ถือว่าเป็นผลดี โดยทั้งหมดขึ้นกับปัจจัย ณ เวลานั้น
ในส่วนของการเก็บกู้ทุ่นระเบิด พลโทบุญสินกล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชาไม่แสดงความร่วมมือ เพราะเป็นผู้วางเอง จึงไม่ต้องการจัดการต่อ พร้อมยอมรับว่ามีความขัดแย้งในทางปฏิบัติ แต่ก็ยังต้องประสานผ่านคณะอนุกรรมการออตตาวา แม้มองว่าเป็นเรื่องยาก
ภารกิจต่อเนื่องและการเปลี่ยนผ่าน
พลโทบุญสินยืนยันว่า ไม่กังวลแม้ใกล้เกษียณ เพราะเชื่อว่าตนได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว ส่วนงานที่ยังค้างจะเป็นความรับผิดชอบของแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ที่จะมารับช่วงต่อ
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ พลโทบุญสินยังได้ร่วมรับมอบสิ่งของจากหน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อส่งต่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
ทั้งนี้ เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เพื่อสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ไทย–เมียนมา รวมถึงสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในช่วงเปลี่ยนผ่านการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญซึ่งจะมีผล 1 ตุลาคมนี้