เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 เวลา 13.40 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงถึงกรณีความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่าการดำเนินการผลักดันประชาชนชาวกัมพูชาเป็นไปตาม หลักมนุษยธรรมสากล ภายใต้กรอบอำนาจฝ่ายปกครอง และขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะหน้า พร้อมย้ำว่าการควบคุม เชลยศึก 18 นาย ยังคงเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล แม้ทางกัมพูชาจะร้องขอให้ปล่อยตัวก็ตาม

สร้างรั้วชายแดนไทย–กัมพูชา อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล

โฆษกกองทัพบกเปิดเผยถึงมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่เห็นชอบให้ดำเนินการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบุว่ากองทัพบกมีหน้าที่สนับสนุนด้านข้อมูลและการพิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายละเอียด

พล.ต.วินธัย ย้ำว่า หลักการสร้างรั้วเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน แต่พื้นที่ที่จะดำเนินการได้ต้องพิจารณาความเหมาะสมเป็นกรณีไป บางจุดสามารถทำได้ทันที ขณะที่บางจุดต้องอาศัยกลไกคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) จึงจะสามารถดำเนินการได้ในลำดับถัดไป

ผลักดันประชาชนกัมพูชา ยึดตามกฎหมายและสิทธิมนุษยชน

กรณีพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ซึ่งมีประชาชนกัมพูชาเข้ามาเกี่ยวข้อง พล.ต.วินธัย ยืนยันว่ากองทัพบกปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยใช้มาตรการค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่การเผชิญหน้าด้วยกำลังอาวุธ เพื่อป้องกันภาพลักษณ์ด้านลบที่อาจถูกนำไปขยายผลในเวทีต่างประเทศ

โฆษกกองทัพบกระบุว่าได้มีการพูดคุยและประสานงานกับทั้งฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายของแต่ละประเทศและหลักกติกาสากล พร้อมย้ำว่าการรับมือของเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ

เชลยศึก 18 นาย คุมตัวตามมาตรฐานสากล

ในส่วนของประเด็น ทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ถูกควบคุมตัว พล.ต.วินธัย ชี้แจงว่ากองทัพบกดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยการปฏิบัติต่อเชลยศึก โดยที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้องค์กรสากลเข้ามาเยี่ยมตรวจสอบ ซึ่งไม่พบการละเมิดสิทธิมนุษยชนใด ๆ

โฆษกกองทัพบกยังระบุว่ามีองค์กรนานาชาติเข้ามาตรวจสอบเป็นระยะ และให้การรับรองว่าการดูแลเชลยศึกของไทยเป็นไปตามมาตรฐาน โดยบางครั้งยังได้รับคำชมในด้านการปฏิบัติที่เหมาะสม แม้ความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชายังไม่ยุติ แต่ไทยยังคงยืนยันแนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องกับหลักมนุษยธรรมสากล

เส้นตาย 10 ตุลาคม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

เมื่อถูกถามถึงแนวทางผลักดันประชาชนกัมพูชาในวันที่ 10 ตุลาคมที่จะถึงนี้ พล.ต.วินธัย ตอบว่ายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการดำเนินการแน่นอนหรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในพื้นที่และการประเมินความเหมาะสมของฝ่ายปกครอง โดยย้ำว่าทุกการปฏิบัติจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายไทยและมาตรฐานสากล