เกิดเหตุระทึกกลางเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อคนร้ายกว่า 10 คน บุกปล้นร้านทองในห้างดังเมื่อค่ำวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 11 นาที กวาดทองคำหนักรวมกว่า 600 บาท มูลค่าประมาณ 36.5 ล้านบาท โดยใช้อาวุธปืนยาวข่มขู่และทุบกระจกตู้โชว์ก่อนหลบหนี ขณะเจ้าหน้าที่ทหารพยายามเข้าระงับเหตุถูกยิงได้รับบาดเจ็บหนึ่งนาย เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกทั่วพื้นที่และอยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างเข้มข้น
ปล้นกลางห้างดัง ใช้ปืนยาวข่มขู่ ก่อเหตุรวดเร็วภายใน 10 นาที
เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2568 กลุ่มคนร้ายแต่งกายด้วยเสื้อและหมวกสีดำ สวมหน้ากากอนามัยสีดำปิดบังใบหน้า จำนวนประมาณ 10 คน บุกเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ก่อนจะตรงเข้าไปที่ร้านทอง เยาวราชกรุงเทพ ใช้อาวุธปืนยาวข่มขู่พนักงานและลูกค้าที่อยู่ในร้าน พร้อมทุบกระจกตู้โชว์ทองคำอย่างรวดเร็ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ภายในร้านมีทองคำรวมประมาณ 800 บาท ถูกคนร้ายกวาดไปกว่า 600 บาท เหลือเพียงราว 200 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 36.5 ล้านบาท โดยกลุ่มคนร้ายใช้เวลาในการลงมือเพียง 10.42 นาที ก่อนหลบหนีไปโดยใช้รถยนต์หลายคันเป็นพาหนะ

ยิงปะทะทหาร เจ็บหนึ่งนาย จับพนักงานเป็นตัวประกันก่อนหลบหนี
ระหว่างเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ทหารจาก ชุดปฏิบัติการพิเศษรพศ.408 ที่อยู่ในห้างเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ปรับปรุงฐานปฏิบัติการ พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ แต่ถูกกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ เป็นเหตุให้ สิบเอกบุริศวร์ ระดาชัย ตำแหน่งนายสิบอาวุธเบา ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนแฉลบบริเวณคอทะลุหน้าอกและขา
ในเวลาเดียวกัน กลุ่มคนร้ายได้จับ นายจีรศักดิ์ เปาะหนิ อายุ 30 ปี พนักงานของห้าง เป็นตัวประกันเพื่อเปิดทางหลบหนี ก่อนขับรถออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว โดยทั้งสองรายถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ล่าสุดอาการปลอดภัย
พบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด บางจุดเกิดระเบิดสร้างความเสียหาย
หลังเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะเป็นถังดับเพลิงสีเหลืองบรรจุตะปูเรือใบ วางอยู่บริเวณยูเทิร์นหน้าห้างที่เกิดเหตุในอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งบางส่วนยังไม่เกิดระเบิด แต่สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประชาชนหลายคัน
ต่อมาในเวลา 19.00 น. มีการพบวัตถุต้องสงสัยเพิ่มเติมบริเวณทางรถไฟถนนอรกานต์ และถนนสายสุไหงปาดี–สุไหงโก-ลก ใกล้โรงเรียนแสงธรรมวิทยา ซึ่งต่อมาบางจุดได้เกิดระเบิดขึ้นจริง สร้างความโกลาหลและความกังวลในพื้นที่อย่างกว้างขวาง

เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวน คาดเชื่อมโยงกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบชายแดนใต้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเร่งสืบสวนหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในห้างและเส้นทางหลบหนี โดยคาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งมีลักษณะการลงมือคล้ายคลึงกับหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ขณะนี้ได้มีการตั้งจุดตรวจและปิดล้อมพื้นที่โดยรอบเพื่อค้นหาตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกภาคส่วนติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด