ส.ส.เพื่อไทย จวก “อนุทิน” เมินน้ำท่วมสุโขทัย ชาวบ้านกว่า 3 หมื่นเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย พรรคเพื่อไทย ออกโรงวิจารณ์การทำงานของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังไม่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเผชิญน้ำท่วมรุนแรงในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเกิดขึ้นเป็นรอบที่สองในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 30,000 คน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเยียวยาและช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายอย่างเป็นรูปธรรม

น้ำหลากจากแพร่–พะเยาท่วมซ้ำสุโขทัย พื้นที่กว่า 3,000 ครัวเรือนเดือดร้อน

น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัยปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี โดยมวลน้ำส่วนใหญ่ไหลมาจากจังหวัดแพร่และพะเยา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากพายุ “บัวลอย” ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคเหนือและตอนบนของภาคกลาง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงจนเอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมพื้นที่หลายอำเภอของสุโขทัย

เธอกล่าวว่า พี่น้องชาวสุโขทัยต้องเผชิญน้ำท่วมรอบที่สองในปีเดียว โดยน้ำท่วมครั้งนี้มีความรุนแรงเป็นวงกว้าง ครอบคลุมกว่า 3,000 ครัวเรือน หรือราว 30,000 คน ระดับน้ำบางจุดสูงถึง 2 เมตร หลายครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แต่กลับยังไม่มีหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือหรือให้การเยียวยาอย่างจริงจัง

วิจารณ์ “อนุทิน” ทิ้งประชาชน เดินสายอวยพรวันเกิดแทนลงพื้นที่

น.ส.ประภาพร กล่าวต่อว่า ขณะที่ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนจากอุทกภัยอย่างหนัก กลับเห็นภาพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีบางส่วนเดินทางไปอวยพรวันเกิดบุคคลสำคัญของพรรคภูมิใจไทยแทนที่จะลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ประสบภัย

เธอระบุว่า การเลือกลงพื้นที่ของผู้นำรัฐบาลดูเหมือนมุ่งเน้นพื้นที่เป้าหมายทางการเมืองมากกว่าพื้นที่เดือดร้อนจริง เช่น สุโขทัย พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ ซึ่งมีประชาชนหลายหมื่นครัวเรือนกำลังเผชิญปัญหาอยู่ จึงถือเป็นการ “ทอดทิ้งประชาชน” และ “สร้างภาพเพื่อหวังคะแนนเสียง” มากกว่าการทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ควรอยู่เคียงข้างประชาชน

จี้รัฐเร่งเยียวยาเท่าเทียม เรียกร้องความเป็นธรรมให้เกษตรกร

น.ส.ประภาพร เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยด่วน พร้อมเสนอให้ใช้มาตรฐานเดียวกับกรณีเหตุอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย ที่ภาครัฐให้การช่วยเหลือครอบครัวละไม่เกิน 9,000 บาท เพื่อให้ประชาชนสามารถซ่อมแซมที่อยู่อาศัยได้อย่างทันท่วงที

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะสวนมะม่วง ละมุด มะยงชิด และสวนกล้วยตานี ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของสุโขทัย หลายแปลงถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด แต่กลับไม่ได้รับเงินชดเชยจากรัฐ เนื่องจากถูกจัดเป็น “ไม้ยืนต้น” ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การเยียวยา ทั้งที่สวนกล้วยตานีสร้างรายได้ส่งออกหลายร้อยล้านบาทต่อปี

“ในฐานะผู้แทนของพี่น้องชาวบ้าน ดิฉันจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้เกษตรกร เพื่อให้รัฐบาลใช้งบประมาณอย่างเท่าเทียมทุกพื้นที่ ไม่เลือกปฏิบัติตามสีทางการเมือง” น.ส.ประภาพร กล่าวย้ำ

คนร้ายบุกปล้นร้านทองสุไหงโก-ลก กวาดทองกว่า 600 บาท มูลค่ากว่า 36 ล้าน

“ณัฐพงษ์” รับเสียงผิดหวังบางส่วน ปมโหวตนายกฯ ย้ำมุ่งแก้รัฐธรรมนูญสร้างประชาธิปไตยแท้จริง