เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ประกาศเลื่อนการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย–กัมพูชา ออกไปโดยไม่มีกำหนด หลังหารือร่วมกับ ภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา แล้วสองครั้ง และมีการส่งเอกสารชี้แจงสี่รอบ แต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่สามารถเสนอ แผนปฏิบัติการลดความขัดแย้งและเก็บกู้ทุ่นระเบิด ที่มีรายละเอียดชัดเจนตามกรอบความตกลงของ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)
ทภ.2 ย้ำไทยรักษาความน่าเชื่อถือ ไม่ยื้อเวลา ป้องกันการบิดเบือน
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า การหารือระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเป้าหมายเพื่อจัดทำ แผนการเคลื่อนย้ายอาวุธหนัก และ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน ให้มีขั้นตอนและระยะเวลาปฏิบัติที่สามารถตรวจสอบได้จริง โดยทั้งสองฝ่ายได้พบปะหารือสองครั้ง และแลกเปลี่ยนเอกสารข้อเสนอไปมาสี่รอบ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชายังไม่สามารถจัดทำ แผนปฏิบัติ (Action Plan) ที่ระบุรายละเอียดการปรับกำลังและพื้นที่ปฏิบัติงานได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ไม่สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาระดับ RBC ได้ตามที่คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) กำหนดไว้
กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของข้อตกลงและป้องกันการบิดเบือนข้อเท็จจริงในภายหลัง จึงมีมติ เลื่อนการประชุม RBC ไทย–กัมพูชาออกไปโดยไม่มีกำหนด จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะมีข้อเสนอที่สามารถนำไปสู่การลดความขัดแย้งได้จริง

ไทยยืนยันพร้อมดำเนินการในกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ
แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า การเลื่อนประชุมในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความล่าช้าฝ่ายไทย แต่เป็นการดำเนินการภายใต้หลักการรักษาความมั่นคงและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ โดยไทยพร้อมปฏิบัติทุกขั้นตอนภายใต้กรอบความร่วมมือของ คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)
“กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันจะดำเนินการทุกมาตรการภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง และปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถ” แถลงการณ์ระบุ
การประชุม RBC เดิมกำหนดจัดที่ช่องจอม จ.สุรินทร์
เดิมที การประชุม RBC ไทย–กัมพูชา ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 กับภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 ตุลาคม 2568 ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
การประชุมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อ ลดความตึงเครียดชายแดน และผลักดันให้การ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ดำเนินไปตามข้อตกลงสากล ซึ่งจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชนชายแดนทั้งสองประเทศในระยะยาว